วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ไฟล์สอนเมเจอร์สเกล

ไฟล์สอนเมเจอร์สเกล เป็นไฟล์ZIP ข้างในเป็นวีดีโอสอนครับ โดย ลิตเติ้ลด็อก
bbznet.pukpik.com/scripts2/view.php?user=thaiguitarplayer&board=10&id=20&c=1&order=

http://www.savefile.com/files/2232922
ตอนที่1 แนะนำเมเจอร์สเกล

http://www.savefile.com/files/5645131
ตอนที่2 เมเจอร์สเกล แพทเทิร์นที่1

เมเจอร์สเกล แพทเทิร์นที่2
http://www.savefile.com/files/6032868

เมเจอร์สเกล แพทเทิร์นที่3
http://www.savefile.com/files/3277830

เมเจอร์สเกล แพทเทิร์นที่4
http://www.savefile.com/files/5272846

บูรพา ไม่แพ้ ตงฟางปุ๊ป้าย

คำว่า บูรพา ไม่แพ้ มีที่มาจากนิยายจีนเรื่อง กระบี่เย้ยยุทรจักร หรืออีกชื่อนึง เดชคำภีร์เทวดา สมัยเด็ก ๆ ผมก็เคยดูนะ เรียกเป็นภาษาจีนเป็น ตงฟางปุ๊ป้าย หรือภาษอังกฤษ (Asia The Invincible) คุณตงฟางปุ๊ป้าย เค้าแอบฝึกวรยุทธพิศดารขั้นเทพชื่อว่า บรรลุยอดวิชาทานตะวันถึงขั้นไร้เทียมทาน ใช้เข็มแทนกระบี่ได้แต่เจ้าวรยุทธนี้ฝึกแล้วต้องตัดจู๋ทิ้ง ^^ ฮ่วยย!! คุ้มไม๊เนี่ย...ทีนี้ก็เลยกลายเป็นกระเทย ภาษาจีนกลาง เหรินเยา แต่ยังมีจิตใจรักผู้หญิงอยู่..??? แหละด้วยความแก่กล้าของวิชาจึงกระหายในอำนาจจึงได้ทำการปฏิวัติรัฐประหาร เหมือนบางประเทศ!!! แล้วตั้งตัวเป็นใหญ่...สุดท้ายก็พลาดท่าเสียทีในระหว่างการต่อสู้ได้รับความสาหัส...หาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเองจากหนังชุด...เอาละกันนะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

chromatic scale

ไม่ว่าท่านจะเป็นเทพหรือว่าคนเดินดินที่ไม่เคยจับกีตาร์
โครมาติกสเกล เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเล่นกีตาร์
ผมคิดว่าทุกคนก่อนที่จะเริ่มโซโล่ต้องผ่านการฝึกตรงนี้มาก่อน ไม่มากก็น้อย

ทำไมฤ?

เพราะมันเป็นการฝึกประสาทให้สมองเรารับรู้และเชื่อมโยงระหว่างมือและนิ้ว
เพราะมันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในฝึกการเล่นให้ถูกจังหวะ ข้อนี้สำคัญยิ่ง*
เพราะมันเป็นวิธีวอมนิ้วที่ดี ก่อนเล่นกีตาร์ทุกครั้ง

ง่ายๆแต่มีประโยชน์มากมายคับ...

เริ่มกันเลย

นิ้วชี้ดีด สาย6 ช่อง1
นิ้วกลางดีด สาย6 ช่อง2 (นิ้วชี้ยังค้างไว้ตำแหน่งเดิมนะครับ)
นิ้วนางดีด สาย6 ช่อง3 (นิ้วชี้และกลางค้างไว้ตำแหน่งเดิม)
นิ้งก้อยดีด สาย6 ช่อง4 (นิ้วทั้งสี่กดค้างเริยงกันบนสาย 6)
แล้วก็มาเริ่มใหม่ที่สาย5 สาย4 สาย2 สาย2 สาย1
โดยเวลาดีด ให้ใช้ปิ๊ก ดีด ขึ้น-ลง เสมอ สำคัญมากตรงนี้*

พอดีดจากสาย6 ลงไปสุดสาย1 แล้ว
ก็ทำเหมือนเดิม แต่เริ่มจาก ช่อง4 สาย1
ช่อง3 สาย1
ช่อง2 สาย1
ช่อง1 สาย1
เรื่อยมาจนกลับมาถึง ช่อง1 สาย6 หรือจุดเริ่มต้นนั้นเอง

แล้วก็เริ่มใหม่ แต่คราวนี้เริ่ม ที่ช่อง2 ของสาย6
ทำยังงี้ต่อไปเรื่อยจนสุดคอกีตาร์ แล้วก็ดีดย้อนกลับหลังมาจบที่จุดเริ่มต้น

ฝึกวันละ2หน ไป-กลับ บนคอกีตาร์
ใช้เครื่องเมโทรนอมหรือเครื่องให้จังหวะช่วยจะดีมาก
ฝึกบ่อยๆแล้วจะเห็นผลกะตัวเองว่า เธอเปี๊ยนไป๋

ปล. พยายามดีดขึ้น-ลงให้ตรงจังหวะให้มากที่สุด***
จังหวะนิ้วที่กดลงบนคอกีตาร์ จะต้องพร้อมกับปิ๊กที่ดีดลง(ขึ้น)พอดี***
ตรงนี้จะทำให้เสียตัวโนท ที่ออกมาตรงและสะอาด สำคัญมากในระยะยาว***

บทความจาก guitarthai


เพิ่มเติม
http://www.music.vt.edu/musicdictionary/textc/chromaticscale.html

หลักฐานการสมัครเรียนราม

โปรดตรวจสอบเอกสารให้ครบและเรียงให้ถูกต้องก่อนยื่นสมัครด้วยตนเอง
 
1.ใบสมัคร (ม.ร. 2) ต้องกรอกข้อความครบถ้วน พร้อมติดรูปถ่ายสี ขนาด 2 นิ้ว
และทากาวติดในกรอบที่กำหนด (อยู่ในเล่ม)

2. สำเนาวุฒิการศึกษา 2 ฉบับ (กรณีเทียบโอนหน่วยกิตระดับอนุปริญญา หรือเทียบเท่าขึ้นไปให้ 4 ฉบับ)
      “วุฒิการศึกษาต้องระบุการจบหลักสูตรและวันที่สำเร็จการศึกษาเท่านั้น
       2.1 กรณีมีการเปลี่ยนชื่อ-สกุลต้องแนบสำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล  หรือ ใบสมรส  หรือใบหย่า
             (แล้วแต่กรณี) ให้เท่าจำนวนสำเนาวุฒิการศึกษา  และเย็บติดกันเป็นชุด (ถ้ามี)
      2.2 กรณีใช้วุฒิการศึกษาจากต่างประเทศให้ดำเนินการขอใบเทียบระดับความรู้ที่กระทรวงศึกษาธิการ
            ก่อนการสมัคร และให้ถ่ายสำเนาใบเทียบความรู้เท่ากับวุฒิการศึกษานั้นมาในวันสมัครด้วย (ถ้ามี)

3. สำเนาทะเบียนบ้าน ที่มีชื่อ-สกุลผู้สมัคร 2 ฉบับ
4. สำเนาบัตรประชาชน 3 ฉบับ
5. ใบรับรองแพทย์ (ขอได้ที่งานแพทย์และอนนามัย หรือสถานที่รับสมัคร ค่าธรรมเนียม 20 บาท)
6. แบบฟอร์มขอเปิดบัญชีธนาคารทหารไทย
7. คู่มือแนะนำการกรอกและระบายระเบียนประวัติฯ (ม.ร. 25) และแผ่นสีเขียว
8. ใบสมัครสมาชิกข่าวรามคำแหง


(ข้อมูลเก่า)
การลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัย อาคาร VKB ชั้น1 มี3คาบ คาบ1 ตั้งแต่เวลา 8.30-12.00 น. คาบที่2 12.10 -16.00น. คาบที่3 16.10 -18.00 น. ค่ะ

หมายเหตุ ::  สำเนาเอกสารทุกฉบับให้รับรองสำเนาถูกต้องด้วยและ
                                                  และให้ถ่ายขนาด A4 เท่านั้น 

*ระเบียบนี้ใช้ในปี 2554

ตัวอย่างการกรอกใบสมัคร ม.ราม ออนไลน์ คลิ๊ก
เข้าสู่หน้าระบบกรอกใบสมัคร (ฟรีจากเดิมต้องซื้อ 120 บาท) คลิ๊ก

วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แปลงสีจาก RGB มาเป็น CMY


บทความจาก iam.hunsa.com/arickasris/article/22838
 
แปลงสีจาก RGB มาเป็น CMY(ไม่มี K) เราสามารถให้ Photoshop คำนวณให้เราได้ว่าจะแปลงสีจาก RGB มาเป็น CMY(ไม่มี K) ยังไงดี 1. ไปที่ Edit > Color Settings 2. ตรงช่อง Working Spaces > CMYK: ให้คลิกแล้วเลื่อนไปเลือก Custom CMYK 3. ในไดอะล็อกบ็อกซ์ของ Custom CMYK...-ตั้ง Black Ink Limit เป็น 0 เพื่อบังคับไม่ให้มีการใช้หมึกดำ-เลือก UCR หรือ GCR ก็ได้ เพราะพอไม่มี K ก็ไม่มีความแตกต่างระหว่าง UCRกับ GCR 4. เลือกสีของหมึกพิมพ์ (Ink Colors) และ Dot Gain ที่ใกล้เคียงกับหมึกที่เราใช้ ถ้าไม่รู้ใส่ค่า Ink Colors > swop(coated)Dot Gain > 20%-ตั้งชื่อในช่อง Name ตามใจชอบ แล้วคลิก OK จากนั้นก็เลือกใช้มันเหมือนเป็น Printer Profile ตัวนึง คือ เปิดรูป RGB ขึ้นมา แล้วConvert เป็น CMYK โดยใช้โปรไฟล์นั้น แล้วเราก็จะได้ไฟล์ CMYK ที่เพลท Kไม่มีอะไรเลย หากคุณอยากจะปรับสีเพิ่มเติม ก็ปรับได้ตามปกติ (เช่นด้วย Curvesหรือ Levels—แต่ไม่แนะนำให้ปรับโดยใช้ Saturation เพราะอาจทำให้มีหมึกเกิดขึ้นในเพลท K) หมายเหตุ เมื่อทำเป็น SWOP (Coated), 20%, GCR, None แล้ว  ก็สมควรเลือกโปร์ไฟล์เป็น SWOP (Coated), 20%, GCR, Noneด้วย ไม่งั้นเวลาพริ้นทร์ออกมาอาจมีปัญหาได้  และก็ให้ระวังเรื่องสีเพี้ยน สมควรไปตั้งค่า Printer ให้ตรงกับ Photoshop ด้วย เครื่อง printer แต่ละรุ่นจะไม่เหมือนกัน บอกใบ้ให้ละกัน ให้หาคำว่า perform color correction เมื่อเจอแล้วเอาเครื่องหมายถูกออก สีก็จะตรง(กรณีเอาค่าKออก)ระวังสีไม่ตรงกับหน้าจอด้วย ที่จริงยังมีสาเหตุอื่นที่ทำให้สีเพี้ยนด้วย นั้นคือ การระบุค่าโปรไฟล์สี(ProFileColor)ของงานเช่น เราเลือกทำงานในโหมดสี sRGB (มีAdobe RGB(1998), AppleRGB, sRGBและอีกหลายRGB) แต่ Print โหมดสี cmyk แน่นอน สีที่ได้ย่อมไม่ตรงกัน หรือสีcmyk ของเครื่องPrintเป็น Euroscale Coated V2 แต่งานที่เอาไปprintดันตั้งโปรไฟล์ สี cmyk เป็น U.S.Web Coated (SWOP)v2 คราวนี้พอprintออกมาก็สีก็เพี้ยนสิครับ แต่นี่ยังไม่เท่าไหร่ ที่อาการหนักสุด เห็นจะเป็นเอาโปรไฟล์ สี sRGBและ KODAK DC SERISE Digital Camera(สองอันนี้ใช้กับเครื่องprintในร้านถ่ายรูป) ไปพริ้นทร์กับเครื่องรองรับสี Adobe RGB(1998) อย่างเดียวนะสิ สีออกมาดูไม่ได้เลย สุดห่วยแสนต่วย ระวังหน่อยนะครับบางร้านเค้าไม่รู้เรื่อง พอPrintออกมาแล้วทำไมไม่ตรงกับภาพที่เราแต่ง โดยเฉพาะโหมดสี RGBนี่สีจะออกมาไม่ตรงกับเครื่องPrint ต้อง cmykอย่างเดียวครับ อยากรู้ว่าสีออกมายังไง ลองเปลี่ยนโหมดสี RGB เป็น CMYK ดูสิครับจะรู้ หรือไม่ก็ปรับค่าแสงในโหมดRGB ปรับค่าสีในCMYKก็ได้ครับ หรือก่อนPrintแปลงสีเป็นCMYKก่อนแล้วแต่งอีกสักหน่อยค่อยPrintก็ได้ รับรองสีตรงแน่นอนครับ แล้วระวังเรื่อง โปรไฟล์ สี cmykด้วยครับ เครื่องPrinter ส่วนใหญ่จะใช้ค่า สี cmyk เป็น U.S.Web Coated (SWOP)v2กันครับ การกำหนดค่าโปรไฟล์สี ไปที่ Edit > Color Settings ดูที่ช่อง Working Spaces สามารถเลือกปรับได้ตามใจชอบ ให้ตรงกับเครื่อง print ได้ครับ ยกเว้นแต่ต้องการเปลี่ยนโปรไฟล์สี ต้องไปที่ edit > AssignProfileครับ แล้วเลือกโปรไฟล์สีที่ต้องการดูที่ช่องพรีวิว สังเกตความแตกต่างครับ คงพอทราบกันนะครับ ว่าทำไมสีเพี้ยนจากแบบไปเยอะ
บฃ

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เธอทั้งหลายอย่าเป็นผู้ต้องร้อนใจในภายหลังเลย


การดับทุกข์ย่อมมีเพราะการดับแห่งนันทิ


วันคืนล่วงเลยไป ๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่

คนแพ้ไม่ใช่คนล้มเหลว แต่คนที่ล้มเหลวคือคนที่ล้มเลิก


ชีวิตคนเราต้องพึ่งคติ เพื่อรักษาสติ


แนะนำเว็บคำนวณการมองเห็นเส้นขอบฟ้า ตามความสูงของแต่ละคนเมื่อยืนริมทะเล

 แนะนำเว็บคำนวณการมองเห็นเส้นขอบฟ้า ตามความสูงของแต่ละคนเมื่อยืนริมทะเล หลาย ๆ ท่านไปเที่ยวทะเลมองสุดสายตาไปเห็นน้ำกับฟ้าบรรจบกัน นั่นคือระยะที่สายตาเรามองเห็น อยากรู้ไม๊ว่าที่เรามองเห็นนั้นไกลเท่าไหร่ คำนวณตามเว็บนี้เลยครับ
http://www.ringbell.co.uk/info/hdist.htm

10 เมืองร้างทีน่ากลัว ทั่วโลก v. 2

ภาษาไทยโดย : xsci.blogspot.com

...มีมากมายหลายเหตุผลว่าทำไมเมือง ต่าง ๆ เหล่านี้ถึงถูกทิ้งร้าง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางเศรษฐกิจอันเป็นปัจจัยหลังของเหมืองล้มเหลว หนี้สิน ธรรมชาติ ภัยพิบัติจากธรรมชาติ หรือรัฐบาลไม่มีอำนาจควบคุม ทำให้สถานที่ทิ้งร้างเหล่านี้ในบางเมืองร้างกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใน ปัจจุบัน แต่!! ในบางที่เหล่านี้หากเข้าไปอาจมีอันตรายและผิดกฏหมาย  แต่หลายคนกลับหลงไหลในสิ่งที่น่ากลัวเหล่านั้น จึงเสนอ 10 อันดับเมืองร้างทั่วโลก

Update ชมเป็นคลิ๊บ VDO



เริ่มจากอันดับ 10 Bodie, California แคลิฟอเนีย



ก่อ ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1876 เป็นเมืองในแบบอเมริกันแท้ เมืองนี้ได้เริ่มก่อตั้งถิ่นฐานจากการเป็นเมืองเล็ก ๆ ในการทำเหมืองแร่ นัับตั้งแต่ค้นคบเหมืองก็มีคนนับพันได้หลั่งไหลเข้ามาตั้งถิ่นฐานประกอบ กิจการค้า จากจำนวนประชากร 1880 คน - เพิ่มขึ้นเป็น 10000 คน ในเมืองนี้มีร้านขายเครื่องดื่มกว่า 65 ร้าน เรียงรายสองฝั่งถนนหลักของเมือง และมีไชน่าทาวน์เป็นย่านที่อาศัยของคนจีนที่นี่ด้วย



การ ลดลงของทรัพยากรเป็นปัจจัยเหตุสำคัญในการอยู่อาศัย อย่างไรก็ตามเมืองนี้ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงจนกระทั่งศตวรรษที่ 20 ได้เกิดเหตุการไฟไหม้ใจกลางเมืองซึ่งเป็นย่านธุรกิจอย่างรุนแรงในปี ค.ศ. 1932 เมืองนี้ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่สำคัญในปี ค.ศ. 1961 และในปี ค.ศ. 1962 ผู้คนเริ่มเข้ามาอยู่อาศัยและฟื้นฟูเมืองให้คืนสู่สภาพเดิม



ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้ และเดินบนถนนสายหลักชมสภาพเมือง ซึ่งได้รับการฟื้นฟูเพื่อเป็นการรำลึกถึงอดีตที่เคยรุ่งเรือง ซึ่งเปิดให้เยี่ยมชมเกือบตลอดทั้งปี ปิดเฉพาะฤดูหนาวเนื่องจากหิมะตกหนัก เวลาที่ควรไปที่ยวที่นี่คือช่วงระหว่างเดือนในฤดูร้อน


อันดับที่ 9 San Zhi, Taiwan ไต้หวัน



ตัว เลือกที่มากกว่าความทันสมัย นี่คือภาพของเมืองที่ถูกทิ้งร้างทางตอนเหนือของใต้หวัน ในเขต San Zhi ช่างน่าเหลือเชื่อที่หมู่บ้านนี้ได้ถูกสร้างอย่างหรูหราสำหรับพักร้อนสำหรับ มหาเศรษฐี อย่างไรก็ตามหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุในการก่อสร้างอย่างร้ายแรงหลายครั้ง ในระหว่างการก่อสร้าง ทำให้การก่อสร้างได้หยุดลง ประกอบกับการขาดเงินทุนและความเต็มใจในการก่อสร้าง นั่นเป็นปัจจัยที่ทำให้การก่อสร้างได้ถูกหยุดลงอย่างถาวร แต่ชาวต่างชาติที่ชื่นชอบในโครงสร้างยังคงอยู่ในความทรงจำไม่ลบเลือน แต่ยังคงเป็นที่กล่าวขานถึงความน่าสะพรึงกลัวในความลี้ลับ...ในสถานที่แห่ง นี้...



หลัง จากนั้นทั้งหมดก็ไม่ได้รับการดูแลรักษา ผู้ที่ผ่านมาที่นี่จะพบกับเหตุการณ์ประหลาด และขอบคุณไปยังสถาปนิกที่มีชื่อเสียงที่ได้สร้างอนุสรณ์ที่แสดงถึงตำนานความ เติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ก็อาจจะมีการพัฒนาใหม่อีกครั้งนั่นก็หมายถึงต้องทำลายบ้านแห่งวิญญาณอัน โดนเดี่ยวเหล่านี้ทิ้ง...




อันดับที่ 8 Varosha, Cyprus ไซปรัส



Varosha ในภาษาตุรกีเมืองหนึ่งในไซปรัส ก่อนหน้านี้เป็นเขตท่องเที่ยวสมัยใหม่ ทันสมัยและหรูหรามากที่สุดอย่างไรก็ตามใน ปี ค.ศ. 1974 ตุรกีได้เข้ามารุกรานไซรัส ทำให้ประชาชนพลเมืองหนีออกไป หวังว่าจะกลับมาอยู่อาศัยเมื่อเหตุการณ์สงบ ซึ่งกองทัพตุรกีได้วางรั้วลวดหนามควบคุมเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ทำให้ไม่มีใคร สามารถกลับเข้ามาได้ในวันนั้น...ซึ่งทำให้เมืองกลายเป็นเมืองร้างที่แสน วังเวงเงียบเหงา....



หลัง จากนั้นก็ได้มีแผนการพัฒนาร่วมระหว่างกรีกและไซปรัส แต่ข้อเสนอดังกล่าวได้ถูกปฏิเสธ แต่ข้อเสนอยังได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่ชนะการเลือกตั้ง แต่กระนั้นก็ไม่มีวัสดุในการก่อสร้างพัฒนา เรื่องราวไม่ได้จบเพียงแค่นั้นยังมีความพยายามที่จะร่วมมือพัฒนาระหว่าง รัฐบาลของสองประเทศให้ Varosha กลับมาสวยงามดังเดิม ภายใต้แนวคิดให้เป็นศูนย์กลางของโรงแรม โดยการออกแบบของ  Laxia Inc. ภายในปี ค.ศ. 2010




อันดับที่ 7 Gunkanjima, Japan



Hashima Island หนึ่งในหมู่เกาะ ที่ปราศจากผู้คน ห่างจาก นางาซากิ 15 กิโลเมตร มีชื่อเรียกกันเล่น ๆ ว่าเกาะเรือรบ มีกำแพงป้องกันสึนามิเป็นขอบสูง เกาะนี้เริ่มจากการเป็นเหมืองถ่านหิน ที่่ขุดเจาะโดยบริษัท มิตซูบิชิ ที่ได้ซื้อเกาะนี้มาเพื่อเป็นฐานในการขุดเจาะถ่านหินจากในท้องทะเล ใน ค.ศ. 1890 ซึ่งโครงการนี้เป็นที่ดึงดูดผู้จนจำนวนมาก ทำให้เกิดเป็นเมืองเจริญ เป็นตึกอาคาร รวมถึงร้านค้า



ใน ค.ศ. 1959 ประชากรหนาแน่นมาก 835 ต่อ เฮกตาร์ ซึ่งหนาแน่นจนถูกบันทึกเป็นสถิติโลก ต่อมาในปี 1960 มีการค้นพบปิโตรเลี่ยม ทำให้ความต้องการใช้ถ่านหินลดลง จนกระทั่งปิดกิจการในที่สุด ปัจจุบันเป็นพื้นที่หวงห้าม แต่ทีการถ่ายภาพยนเรื่อง Battle Royale II และฉากเกมส์อันโด่งดัง 'Killer7'.






อันดับที่ 6 Balestrino, Italy



Balestrino ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อไหร่ เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่ถูกทิ้งร้างตั้งแต่ ศตวรรษที่ 7  ซึ่งเมืองนี้มีเจ้าของเป็น พระนิกายหนึ่งในศาสนาคริสต์ มองที่ภาพด้านบนแล้วประกอบไปด้วยปราสาท ระดับต่ำลงมาจะเป็นเขตวัด จากการบันทึกด้านประชากรเมืองนี้มีประชากรประมาณ 800-850 คน ประกอบอาชีพปลูกต้นมะกอก เป็นส่วนใหญ่







อันดับที่ 5 Katoli World, Taiwan



เรา คิดว่าจะหยุดและออกจากเมืองร้างเหล่านี้ แต่เมื่อมองไปยังรูปปั้นอันมีจิตวิญญาณเมื่อใครได้มองรูปปั้นเหล่านั้น ก็จะรับรู้ได้ถึงความเป็นครอบครัว และมองข้ามความเก่าแก่รกร้าง สวนหนุกแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในยุค 80 และนับจากนั้นเป็นต้นมาก็เสื่อมความนิยมและถูกทิ้งร้าง ซึ่งนับเป็นเรื่องปกติของทวีบเอเชีย ซึ่งยังมีอีกหลายที่กลายเป็นสถานที่รกร้างด้วยเหตุผลเดียวกัน ที่นี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น ถูกทิ้งร้างด้วยเหตุผล...ของการล้มละลายทางการเงิน



Katoli World  ตั้งอยู่ เขต Dakeng Scenic ของใต้หวันเปิดทำการกลางยุค 80 ประสบความสำเร็จในระดับกลาง





อันดับที่ 4 Centralia, Pennsylvania เพนซิเวเนีย



Johnathan Faust เป็นผู้ที่เปิดร้านขายเหล้าในเมือง Centralia ค.ศ. 1841 และต่อมาเขาได้เปิดบริษัทเป็นเหมืองผลิตถ่ายหินใน ค.ศ. 1866. ซึ่งนับแต่นั้นมาบริษัทได้เป็นผู้สร้างรายได้หลักกับเมืองนี้และก่อเกิดเป็น ชุมชนตั้งแต่ ค.ศ.1960 นับแต่นั้นมา ซึ่งเมืองคราคร่ำไปด้วยผู้คน มีบริษัท ห้างร้านเปิดขึ้นมากมาย นับว่าเจริญขึ้นเป็นอย่างมาก แต่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เมืองนี้ได้ถูกทิ้งร้างก็เมื่อมีการเผาขยะมูล ฝอยจากเมืองและทำให้ไฟลุกลามไปยังถ่านหินชั้นใต้ดิน มีการพยายามดับไฟที่ไหม้ถ่านหินอยู่ใต้ดินด้วยน้ำ หรือปูนซีเมนต์ ฉีดอันลงไป ซ้ำร้ายยังระเบิดด้วยแรงอัดจากไอน้ำ ไม่ประสบความสำเร็จไฟลุกลามอยู่ใต้ดินเป็นเวลาหลายปีตั้งแต่ ค.ศ. 1960s ถึง 1970 ควันที่เกิดจากการเผาไหม้ก่อเป็นสารเคมี คาบอนมอนอกไซต์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เมื่อฟุ้งกระจายในอากาศผสมกับน้ำฝนจะกลายเป็นฝนกรด...




ใน ค.ศ. 1979 พื้นที่ดังกล่าวได้กำหนดให้เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย เมื่อสถานีกาซเชื้อเพลิงได้ประกาศถึงอุณภูมิของถังเก็บก๊าซร้อนมากกว่าปกติ ถึงระดับอันตราย 77.8?C และเป็นข่าวอันโด่งดังเมื่อมีเด็กอายุ 12 ปี ตกลงไปในหลุมร้อนขนาด กว้าง 4 ฟุต ยาว 150 ฟุต ทำให้เสียชีวิต ในปี ค.ศ.1984 ได้ใช้เงินถึง 42 ล้านดอลล่า เพื่อจัดการย้ายถิ่นฐานไปยังพื้นที่ใกล้เคียง Mount Carmel and Ashland ปัจจุบันไฟยังลุกไหม้ถ่านหินใต้ดินและจะไหม้ไปอีกนานถึง 250 ปี...




อันดับที่ 3 Yashima, Japan ญี่ปุ่น
*ณ วันนี้ ก็ขอให้กำลังใจผู้ประสบภัยในญี่ปุ่น และสิ่งที่น่าเศร้าก็คือเมืองฟูกุชิมะ น่าจะเป็นเมืองร้างที่เพิ่มมาอีก 1 เมือง



ยา ชิม่า เป็นเมืองที่สวยงามบนที่ราบสูง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองทากามัตสึ เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองเป็นหนึ่งในเกาะหลักของญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่ราบ สูงลาดลงสู่ทะเลและเป็นฐานทัพที่มีชื่อเสียงในสงคราม Genpei War ซึ่งมีศูนย์กลางที่สำคัญคือวัด  ยาชิมะ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้แสวงบุญ แต่เมืองนี้ไม่เป็นที่นิยมที่จะอาศัยอยู่อย่างน่าประหลาด ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความผิดปรกติทางภูมิศาสตร์ หรืออะไรบางอย่างกันแน่...



ใน กลางยุค 80 ประชาชนของเมืองนี้ได้ตั้งใจสร้างบ้านชั้นเลิศหรูเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว มีการทุ่มทุนมหาศาลบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ สร้างโรงแรมระดับหรูถึง 6 แห่ง สร้างสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะมีเสนห์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่ในขณะนั้นจำนวนนักท่องเที่ยวได้ลดลงเป็นอย่างมากแต่อสังหาริมทรัพย์ เพิ่มจำนวนขึ้น จึงทำให้การก่อสร้างพัฒนาทั้งหมด ต้องปิดตัวลง...รวมถึงเคเบิ้ลคาร์ซึ่งเป็นระบบขนส่งหลักของเมืองนี้ด้วย...




อันดับที่ 2 Pripyat, Ukraine ยูเครน เหยื่อของเชอร์โนบิล



Pripyat  เป็นเมืองที่ถูกทิ้งร้างทางตอนเหนือของยูเครนเป็นเมืองที่มีชายแดนติดต่อกับ ประเทศเบลารุสมีประชากรหนาแน่น เป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ภัยพิบัตเชอร์โนบิลเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1986 ซึ่งแผ่กัมมันตภาพรังสี อันตรายครอบคลุม ทำให้ต้องย้ายหนีอันตรายดังกล่าว ซึ่งทำให้เมืองนี้เป็นอนุสรณ์เตือนให้นึกถึงอันตรายของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่ เทคโนโลยีที่มนุษย์ัยังควบคุมไม่ได้ และคร่าชีวิตประชาชนมากมาย



ใน ปัจจุบันเมืองนี้ก็ยังไม่มีผู้อยู่อาศัยนับจากเหตุการณ์เกิดขึ้น ถึงปี 2011 ได้ 26 ปีผ่านมา ก่อนจะมีการสร้างโรงไฟฟ้าขึ้นมามีกา ประชาชนมีความกังวลมากเพราะจุดสร้างโรงไฟฟ้าตั้งอยู่ใกล้เมืองมากเกินไปซึ่ง ห่างจากเมืองเพียง 25 กิโลเมตรเท่านั้นแม้ว่าได้มีการจัดสรรเงินทุนประกันความเสี่ยงต่อมลภาวะแก่ ประชาชน ต่อมาได้มีการอภิปรายจนได้มติการสร้างให้ห่างออกไปอีกเป็น 100 กิโลเมตร และเป็นจุดที่ได้มีการอนุมัติให้มีการสร้างที่แท้จริง...แม้ว่าระยะห่าง 100 กิโลเมตร รังสีอำหิตยังสามารถทำอันตรายกับประชาชน และเป็นเมืองร้างอย่างทีเ่ห็นได้...นี่แหละเทคโนโลยีที่มนุษย์ยังควบคุมเบ็ด เสร็จไม่ได้...





อันดับที่ 1 Craco, Italy อิตาลี่



Craco ตั้งอยู่ในภูมิภาค Basilicata  จังหวัด Matera ห่างจากโตรานโต้ประมาณ 25 ไมล์ เมืองได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยกลางตามสภาพภูมิประเทศที่เป็นเนินเขา ส่วนที่ราบรอบ ๆ เมืองนั้นเป็นฟาร์ม ทุ่งข้าวสาลี และไร่พืชผล สถานที่แห่งนี้มีเจ้าของเป็นหัวหน้าบาทหลวงในศาสนาคริส ซึ่งมีอิทธิพลต่อพลเมืองในสมัยนั้น



ใน ปี ค.ศ. 1891 Craco มีประชาชนเป็นจำนวนกว่า 2,000 คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ แต่เกิดปัญหาหลายอย่างเช่น ยากจน ปัญหาที่อยู่อาศัย ทำให้ประชาชนเริ่มอบยพทิ้งถิ่นฐาน ในระหว่างปี ค.ศ.1892 ถึง 1922 ประชาชนมากกว่า 1,300 ได้ย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในแถบทวีปอเมริกาเหนือ ความยากจนจากการสร้างฟาร์ม แผ่นดินไหว สงคราม แผ่นดินสไลด์เกิดขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1959 ถึง 1972 ทำให้ประชาชนที่เหลือประมาณ 1,800 คน ย้ายที่อยู่ไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงซึ่งเป็นจุดที่ Craco ถึงคราวล่มสลาย ทิ้งไว้เพียงอนุสรณ์สถาน..เป็นซากเมืองตั้งตระหง่านจนทุกวันนี้



ในที่สุดก็ครบทั้ง 10 อันดับนะครับ...
อ้างอิง mediadump.com