แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สาระทั่วไป แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สาระทั่วไป แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ทัศนะของแจ็คหม่า jack ma alibaba (2)

Jack Ma ประธานบริษัท Aliababa เป็นผู้ประกอบการชาวจีนคนแรกที่ได้ปรากฏอยู่บนหน้าปกหนังสือ Forbes Magazine และได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่รวยที่สุดในโลก

ต่อไปนี้คือประสบการณ์ของ Jack Ma

ก่อนที่ผมจะก่อตั้ง Alibaba ผมเชิญเพื่อน 24 คนมาที่บ้านเพื่อพูดคุยกันเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจ หลังจากพูดคุยไปได้สองชั่วโมง พวกเขายังงงไม่หาย อาจเป็นเพราะผมยังสื่อสารได้ไม่ชัดเจนมากนักในตอนนั้น เพื่อนจำนวน 23 คนจากทั้งหมด 24 คนบอกให้ผมยกเลิกความคิดนั้นไปซะ ด้วยหลายเหตุผล เช่น ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอินเตอร์เนต และผมยังไม่มีเงินทุนสำหรับบริษัท Startup ด้วยซ้ำ และเหตุผลอีกมากมาย

มีเพียงเพื่อนคนเดียวเท่านั้นที่บอกผมว่า “ถ้าหากนายอยากจะทำ ก็ลองทำ ถ้าหากมันไม่เป็นอย่างที่นายหวัง นายก็แค่กลับไปทำงานเดิมที่นายทำก่อนหน้านั้นก็ได้” ผมคิดถึงคำพูดนี้ตลอดคืนนั้น และในเช้าวันต่อมา ผมตัดสินใจที่จะลงมือทำ แม้หากว่าเพื่อนทั้งหมดของจะไม่เห็นด้วยก็ตาม

ในช่วงแรกของการก่อตั้ง ทั้งครอบครัวและเพื่อนต่างก็ไม่เห็นด้วยกับผมเลย เมื่อมองย้อนกลับไป ผมตระหนักว่าสิ่งที่เป็นแรงผลักดันที่สุดไม่ใช่ความมั่นใจในพลังของโลกอินเตอร์เนต แต่เป็นคำๆนี้ “ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จ ประสบการณ์ที่ได้มาก็ถือว่าเป็นความสำเร็จของมันเอง” คุณจำเป็นต้องลองทำ ถ้าหากไม่สำเร็จ คุณก็แค่กลับไปทำงานเดิมของคุณก็แค่นั้น

เหมือนกับคำกล่าวของ T.E. Lawrence ที่กล่าวไว้ว่า “ทุกๆคนฝัน แต่ไม่เท่ากัน คนที่ฝันตอนกลางคืน ในฝุ่นคลุ้งแห่งการหลบถอยของจิตใจนั้น ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าฝันนั้นไม่ได้มีอะไร…. แต่ผู้ที่ฝันในเวลากลางวันนั้นเป็นคนที่อันตราย เพราะเขาจะโลดเล่นในความฝันด้วยดวงตาที่เปิดกว้าง และทำให้มันเป็นไปได้ สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมได้ทำ”

ผู้คนที่ล้มเหลวในชีวิตต่างก็มีสาเหตุ 4 สาเหตุด้วยกัน

- มองไม่เห็นโอกาส
- ดูถูกโอกาส
- ขาดความเข้าใจ
- ลงมือช้าเกินไป

คุณยากจนเพราะคุณไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน
ความทะเยอะทะยานทำให้ชีวิตของคนเรามีความหมาย เป็นเป้าหมายที่งดงามในชีวิตที่คนเราควรมี
ในโลกนี้มีเรื่องมากมายที่ยากเกินจะคาดเดา แต่ในโลกนี้ก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้เช่นกัน ความทะเยอทะยานของคนๆหนึ่งเป็นตัวกำหนดอนาคตของคนๆนั้น

บทเรียนจากประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจของ Jack Ma

ความผิดพลาดที่ผมเสียใจที่สุด

เมื่อปี 2001 ผมทำผิดพลาดอย่างนึงคือ ผมบอกกับผู้ร่วมงานจำนวน 18 คนที่ร่วมเดินทางกับผมในตอนแรกว่า ตำแหน่งที่พวกเขาสามารถทำได้สูงสุดคือระดับการจัดการเท่านั้น ส่วนตำแหน่งรองประธานและตำแหน่งระดับสูงอื่นๆ ผมจะจ้างบุคคลภายนอกเข้ามาแทน

หลายปีต่อมา คนเหล่านั้นที่ผมจ้างลาออกไป ส่วนคนที่ผมสงสัยในความสามารถทั้ง 18 คนกลายมาเป็นรองประธานและกรรมการบริษัทแทน

ผมเชื่อในหลักการสองประการคือ

- ทัศนคติของคุณสำคัญกว่าความสามารถของคุณ
- การตัดสินใจของคุณสำคัญกว่าความสามารถของคุณเอง

แน่นอนว่าคุณไม่สามารถทำให้ทุกคนคิดออกมาเหมือนกันได้ แต่คุณสามารถทำให้ทุกคนคิดถึงเป้าหมายเดียวกันได้
- อย่าคิดว่าคุณจะสามารถทำให้ทุกคนคิดเหมือนกันได้ นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
- 30% คือจำนวนคนที่จะไม่เชื่อในตัวคุณ อย่าให้คนอื่นทำงานเพื่อคุณ แต่จงให้พวกเขาทำงานเพื่อเป้าหมายเดียวกัน
- เป็นการง่ายกว่าที่คุณจะรวมบริษัทให้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้เป้าหมายเดียวกันมากกว่าเป็นหนึ่งเดียวภายใต้คนๆเดียว

สิ่งที่ผู้นำมี แต่พนักงานไม่มี
ผู้นำไม่ควรเปรียบเทียบทักษะของตนเองกับทักษะของพนักงาน เพราะพนักงานควรมีทักษะในการทำงานมากกว่าคุณ ถ้าหากพวกเขาไม่มีทักษะในการทำงานเหล่านั้น แสดงว่าคุณจ้างคนผิด!

สิ่งที่ทำให้ผู้นำโดดเด่นกว่าพนักงานคือ
- ผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์และมองเห็นอนาคตได้ดีกว่าพนักงาน
- ผู้นำต้องอดทน จูงใจพนักงานได้ และไม่ยอมแพ้
- ผู้นำต้องยอมรับความล้มเหลวได้

คุณสมบัติของผู้นำที่ดีหลักๆคือ มีวิสัยทัศน์ แรงจูงใจ และความสามารถ

อย่ายุ่งเกี่ยวกับการเมือง
- ผู้คนควรเข้าใจว่า การเมืองกับธุรกิจไม่ควรเป็นเรื่องเดียวกัน เมื่อคุณอยู่ในเกมการเมือง จงอย่าคิดเรื่องเงิน เมื่อคุณอยู่ในธุรกิจ จงอย่าคิดเรื่องการเมือง
- เมื่อเงินบวกกับอำนาจทางการเมือง มันก็เหมือนกับระเบิดเวลาดีๆนี่เอง

4 แง่คิดสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่

- ความล้มเหลวคืออะไร?
    - ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การยอมแพ้
- ความยืดหยุ่นคืออะไร?
    - เมื่อคุณผ่านความยากลำบาก ความผิดหวัง และเศร้าโศกมาได้ ตอนนั้นคุณจะเข้าใจเอง
- หน้าที่ของเราคืออะไร?
    - หน้าที่ของเราคือ ขยันให้มากขึ้น ทำงานหนักขึ้น และทะเยอทะยานเหนือผู้อื่น
- มีแต่คนโง่ที่ใช้ปากพูด คนฉลาดใช้สมอง คนที่ยิ่งใหญ่ใช้หัวใจ

เราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต
ผมบอกกับตัวเองเสมอว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงาน แต่คนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต เราเกิดมาเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าเพื่อคนอื่นๆ ถ้าหากคุณใช้เวลาทั้งชีวิตทำงาน คุณจะต้องเสียใจแน่นอนในสักวัน
ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จมากมายสักแค่ไหน คุณต้องจดจำไว้เสมอว่า คุณเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต ถ้าหากคุณทำงานตลอดเวลา แน่นอนว่าสักวันคุณจะต้องเสียใจ

คู่แข่งและการแข่งขัน
- คนที่แข่งขันกับคู่แข่งอย่างเอาเป็นเอาตายล้วนเป็นคนโง่สิ้นดี
- ถ้าหากคุณมองว่าทุกคนคือศัตรู คนทุกคนรอบตัวคุณจะกลายเป็นศัตรูของคุณ
- ถ้าหากคุณแข่งขันกับผู้อื่น อย่าใช้ความเกลียดชัง ความเกลียดชังมีแต่ทำลาย
- คู่แข่งก็เหมือนกับการเล่นหมากรุก ถ้าคุณแพ้ เราก็เล่นรอบใหม่ คู่แข่งทั้งสองไม่ควรสู้กันเอง
- นักธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่แท้จริงไม่มีศัตรู เมื่อพวกเขาเข้าใจสิ่งนี้ โลกและโอกาสก็เปิดกว้างสำหรับพวกเขา

อย่าบ่นจนเป็นนิสัย
ถ้าหากคุณบ่นนานๆครั้ง นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่ถ้าหากมันกลายเป็นนิสัยแล้วจะเป็นเรื่องแย่ คนควรสังเกตุว่าคนที่ประสบความสำเร็จล้วนไม่ใช่คนที่เอาแต่พร่ำบ่น
โลกนี้ไม่สนหรอกว่าคุณจะพูดอะไร แต่แน่นอนว่าโลกนี้จะไม่ลืมว่าคุณได้ทำอะไรลงไปบ้าง

คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ
- โอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็นคือโอกาสอย่างแท้จริง
- จงให้พนักงานทำงานด้วยรอยยิ้ม
- ลูกค้าคือสิ่งสำคัญที่สุด พนักงานสำคัญรองลงมา และผู้ถือหุ้นสำคัญน้อยที่สุด
- ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะถูกเปลี่ยนแปลง
- ลืมเรื่องการหาเงินไปได้เลย
- ใส่ใจและดูแลลูกค้าประจำ แทนที่จะไปค้นหาเทคนิคดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่
- ทัศนคติกำหนดอนาคตของคุณ

บนถนนของการเป็นผู้ประกอบการ
- โอกาสที่ยิ่งใหญ่ยากที่จะอธิบายให้ชัดเจน สิ่งที่อธิบายได้ชัดเจนมักไม่ใช่โอกาสที่ยิ่งใหญ่
- ควรมองหาคนที่มีทักษะสมบูรณ์แบบเพื่อเริ่มก่อตั้งบริษัทด้วย คนๆนั้นไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จ แต่จงค้นหาคนที่ใช่ ไม่ใช่คนที่ดีที่สุด
- สิ่งที่ไว้ใจได้ยากที่สุดในโลกคือ มิตรภาพระหว่างมนุษย์
- ฟรี คือคำพูดที่แพงที่สุด
- วันนี้โหดร้าย วันพรุ่งนี้โหดร้ายกว่า แต่วันมะรืนจะงดงาม

4 สิ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรทำ
- สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ การไร้ซึ่งวิสัยทัศน์ มั่นใจเกินไป ขาดความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้
- ถ้าคุณไม่รู้จักคู่แข่ง หรือมั่นใจเกินไป หรือไม่รู้จักความสามารถของคู่แข่งดีพอ คุณจะโดนทิ้งไว้ข้างหลัง อย่าเป็น “พวกเขา” ในสุภาษิตนี้ “ในตอนแรกพวกเขาปฏิเสธคุณ จากนั้นพวกเขาหัวเราะคุณ จากนั้นพวกเขาก็รบกับคุณ สุดท้ายคุณเป็นผู้ชนะ”
- แม้ว่าคู่แข่งของคุณจะยังไม่เติบโตมากนัก คุณก็ควรระวังและถือว่าพวกเขาเป็นคู่แข่งจริงจัง
- ขณะเดียวกันถ้าหากคู่แข่งคุณเป็นยักษ์ใหญ่ คุณก็ไม่ควรมองว่าตัวเองเป็นแค่มดตัวเล็กๆเช่นกัน

การเริ่มต้นบริษัท
การเริ่มต้นบริษัทหมายความว่า คุณจะเสียรายได้ที่แน่นอน คุณไม่สามารถลางาน ลาหยุดยาว หรือเรียกร้องโบนัสได้
อย่างไรก็ตาม นั่นหมายความว่า รายได้ของคุณจะไม่จำกัด คุณจะได้ใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ และคุณก็จะไม่ต้องทำงานให้คนอื่นอีกต่อไป
ถ้าหากคุณมี Mindset ที่แตกต่าง คุณจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง ถ้าหากคุณเลือกในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น ชีวิตคุณก็จะแตกต่างจากคนอื่นเช่นกัน

โอกาส
ถ้าหากคนมากกว่า 90% มีความเห็นว่า “ใช่” สำหรับโครงการใดๆ ผมจะไม่เอาโครงการนั้นทันที เหตุผลง่ายๆคือ ถ้าหากคนจำนวนมากเห็นว่ามันดี แสดงว่ามีคนจำนวนมากกำลังทำสิ่งนั้นอยู่ และนั่นก็ไม่ใช่โอกาสสำหรับเราแล้ว

คุณยากจนเพราะคุณไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน

Fan Page: Brain Foods : อาหารสมอง
บทความนี้แปลจาก: Yahoo

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ทัศนะของแจ็คหม่า jack ma alibaba

แจ็คหม่า นักธุรกิจที่เริ่มต้นชีวิตจากคนธรรมดา ที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษและรับแปลเอกสาร ซึ่งมีรายได้ไม่ค่อยพอกับค่าใช้จ่าย จึงหาสินค้าต่างๆ มาขายหารายได้เสริม แต่ก็ช่วยให้พอถูๆ ไถๆ ไปได้ จากนั้นจึงเริ่มทำธุรกิจผ่านระบบอินเตอร์เน็ตโดยการเปิดเว็บไซต์สมุดหน้าเหลือง แต่ก็เกิดอุปสรรคจนต้องยกเลิก นั่นคือการต่อสู้ของแจ็ค กว่าจะมาเป็นเจ้าของ alibaba และ aliexpress ผู้เชื่อมตลาดการค้าด้วยระบบเว็บไซต์ ที่ใหญ่ระดับโลก และนี่คือทัศนะของแจ็คหม่า

- หลายคนบอกว่า ปัญหาที่โลกเผชิญอย่างทุกวันนี้เป็นเพราะ กระแสโลกาภิวัฒน์ (Globalization) แต่ผมไม่เห็นด้วย ผมว่า เป็นเพราะ โลกาภิวัฒน์ ยังเดินไปไม่ถึงจุดสมบูรณ์ต่างหาก เพราะไม่เปิดโอกาสให้ธุรกิจเล็กๆ ได้มีสิทธิ์มีส่วนร่วม
- ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โลกาภิวัฒน์ เกิดขึ้น ก็เพื่อบริษัทใหญ่ๆ ในประเทศพัฒนาแล้ว // เราควรให้ โลกาภิวัฒน์ เป็นสิ่งที่ทุกคนมีส่วนร่วม เราควรช่วยให้คนรุ่นใหม่ บริษัทเล็กๆ ได้มีโอกาสร่วมก้าวไปสู่ ความท้าทายด้วยกัน
- ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า ในอีก 20-30 ปีข้างหน้า โลกเราจะเป็นแบบนี้ Small is beautiful. Small is powerful. Small is wonderful. ยิ่งเล็กยิ่งสวยงาม ยิ่งเล็กยิ่งทรงพลัง ยิ่งเล็กยิ่งวิเศษสุด เพราะฉะนั้น เราควรให้บริษัทเล็กๆ ได้มีโอกาสมากขึ้น เราควรให้ประเทศกำลังพัฒนา ได้มีโอกาสมากขึ้น และเราควรส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่มีโอกาสมากขึ้น
- หลายพันปีก่อน เรามี Silk Road (เส้นทางสายไหม) ตอนนี้ เราควรมี e-road (เส้นทางอิเลคทรอนิคส์) เพื่อให้ธุรกิจขนาดเล็กค้าขาย ทำธุรกิจได้ง่าย คล่องตัว
- ในอนาคต โลกจะมีการปฏิรูปเทคโนโลยี
ผมให้เวลา 50 ปี
: ช่วง 20 ปีข้างหน้า อินเตอร์เน็ต จะกลายเป็นของเก่า
: ช่วง 30 ปีจากนั้น โลกเราจะซื้อ-ขายปลีก ในรูปแบบใหม่ (new retail) คือ online กับ offline และเข้าสู่ยุคการผลิตใหม่ ที่เรียกว่า IOT (Internet of Things) มีระบบการเงินใหม่
- โลกในยุค IT เอเชียล้าหลังสหรัฐ แต่เดี๋ยวนี้ เราไปไวเหมือนกบกระโดด เอาง่ายๆ 15 ปีที่แล้ว ใครจะเชื่อว่า ธุรกิจ e-commerce ของจีน จะโตเร็วขนาดนี้ ก็ในเมื่อโครงสร้างสาธารณูปโภคเพื่อการค้าของจีน แย่สุดๆ
- ถ้าจะว่ากันไปแล้ว e-commerce ในสายตาสหรัฐ เปรียบเหมือน ของหวาน แต่ จีน มอง e-commerce เป็นอาหารจานหลัก เพราะอะไร ก็เพราะสหรัฐมีห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ทุกเมืองทั่วประเทศ อย่าง Walmart, Kmart แต่จีนเรา ไม่มีแบบนั้น
- ในยุคที่เครื่อง พีซี เฟื่องฟู ชาวนาชาวสวนเราไม่มี ใช้กันไม่เป็น แต่ยุคนี้ ชาวนาชาวไร่มีมือถือกันทั้งนั้น เชื่อมต่อการค้า กับคนทั่วโลก ได้มากกว่า 4,000 ล้านคน
- ไฟฟ้า ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นในยุโรป แต่ไปใช้มากในอเมริกา อินเตอร์เน็ท คิดค้นในอเมริกา แต่มาใช้ประโยชน์กันมากในเอเชีย ถ้าคนเอเชีย ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ให้เต็มที่เต็มกำลัง คิดดู เราจะโตกันขนาดไหน ผมถึงมองว่า เอเชียนั้น มีศักยภาพ
- เราจะทำยังไงให้เอเชียเชื่อมต่อกับอนาคตได้? ผมมองอย่างนี้ อย่างที่ผมบอก คือ Small is beautiful. Small is powerful. Small is wonderful. ยิ่งเล็กยิ่งสวยงาม ยิ่งเล็กยิ่งทรงพลัง ยิ่งเล็กยิ่งวิเศษสุด .. โลกยุคข้อมูล เราต้องสู้กันด้วยความฉลาดและสมอง ไม่ใช่พลกำลัง คว้าโอกาสที่เห็น ขอให้มีหัวใจที่กล้าแกร่ง ขอให้เปิดใจกว้าง ขอแค่ยอมรับเอาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรา ไม่ว่าบริษัทคุณจะเล็กแค่ไหน ประเทศเล็กด้อยเพียงไหน คุณสู้ได้แน่นอน
- หลายคนบอกว่า เทคโนโลยี ทำให้คนตกงาน ผมว่าไม่จริง เทคโนโลยี มีแต่จะยิ่งสร้างงาน ดูอย่าง อาลีบาบาของผม สร้างงานให้คนในประเทศมาแล้ว 13 ล้านตำแหน่ง // เทคโนโลยี จะเป็นปัจจัยสำคัญ ในการขจัดปัญหาความยากจนด้วยซ้ำ
ขอขอบคุณ : คุณแจ๊ค หม่า เจ้าพ่อ e-commerce นักธุรกิจ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ที่มองอะไรๆ ทะลุปรุโปร่ง
ขอขอบคุณ : Facebook Saranrom Radio

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เวโรน่า แอรีน่า สนามประลองความบันเทิงแสนดุเดือด-Verona Arena

ภาพจาก palazzovictoria.com

         เมื่อเราคิดถึงสถานบันเทิงแห่งอาณาจักรโรมัน ที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ที่อำมหิตระหว่างนักโทษและเหล่าสัตว์ร้าย การต่อสู้เหล่านี้เป็นพระเอกแห่งความบันเทิง จัดขึ้นในเวทีวงกลมแห่งการต่อสู้ภายในอัฒจรรย์อันยิ่งใหญ่  นักสู้ที่ผ่านการพิจารณาแล้วได้รับการฝึกเพื่อการเป็นนักรบ
          เวโรน่า แอรีน่า อิตาลี เป็นอัฒจรรย์ที่ใหญ่ที่สุดในโรมันสมัยโบราณ วงแหวนสีขาวด้านนอก และหินปูนสีชมพูถูกแรงสั่นสะเทือนของแผนดินไหวทำลายเกือบทั้งหมด ในปี ค.ศ. 1117
แต่น่าอัศจรรย์ที่ภายในไม่มีความเสียหาย วีโรน่า แอรีน่า สร้างเมื่อ ค.ศ. 30 บรรจุผู้ชมได้ 30,000 คน ถูกใช้งานมาอย่างต่อเนื่องการแสดงการต่อสู้ได้เริ่มขึ้นในโรมันยุคกลาง ประมาณ ศตวรรษที่ 18

credit : mediadump

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

มีเรื่องมาเล่าถึงเดือนดาวในกะลา

.....ในเว็บพันทิปสังคมกว้างใหญ่ที่สุดโซเชียลเน็ตเวิร์คแห่งแรกของไทย และเกิดก่อนเฟซบุ๊คมา 20 ปี
มีกระทู้เกี่ยวกับความรู้ด้านการบินและเครื่องบินเขียนโดยนักบินที่ต้องการตอบคำถามยอดฮิต 10 คำถาม ซึ่งมีคอมเม้นท์ที่สะท้อน สังคม แนวคิด อคติ ที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่กับหลายคนทั้งสังคมปกติ และในที่ทำงาน

กระทู้ต้นทางจากโลกพันทิป
http://pantip.com/topic/33955048

เจ้าของกระทู้ซึ่งเป็นนักบินได้อธิบายถึงน้ำมันเครื่องบินว่าเป็นน้ำมันที่ใช้สำหรับเครื่องบินโดยเฉพาะ และพูดถึงค่าออกเทน 100%  นั้นจะทำให้เกิดการจุดระเบิดที่ดีเกินไป

ภาพที่ 1

ความคิดเห็นย่อยที่ 6-3 พยายามอธิบายเสริมเพิ่มเติมความรู้เรื่องค่าออกเทนในเชิงลึก เพราะเจ้าของกระทู้อธิบายไว้คลาดเคลื่อนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดแก่ผู้อ่านได้

ภาพที่ 2

คอมเม้นที่พูดถึงนี้อยู่ใน  ความคิดเห็นย่อยที่ 6 -5  กลับมองว่าการอธิบายเพิ่มเติมความรู้ว่าเป็นการโชว์เหนือในกระทู้คนอื่นตามภาพประกอบที่ 3 มันช่างสะท้อนมุมมองความคิดคนส่วนหนึ่งในสังคมได้อย่างมากที่มีทัศนะมุมมองคับแคบ จิตใจไม่สามารถเปิดรับความคิดเห็นผู้อื่นได้


ภาพที่ 3

การแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมความรู้เสริมหรืออีกด้านนึงของมุมมองอย่างสุภาพ ทำให้เห็นถึงแง่มุมต่าง ๆ ได้มากขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ควรยอมรับ ผลของมันทำให้เราคิดได้รอบรู้ได้กว้างมากขึ้น แต่คนที่มีอีโก้สูงคิดว่าตัวเองรู้มากกว่า หรือระแวงว่าผู้อื่นคิดแง่ร้ายต่อตัวเอง มันคือความหวาดระแวงในสังคมเมืองหลวงที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน ถ้าเราโฟกัสถึงมาที่สังคมการทำงานแล้ว ที่แห่งนี้แหละที่มีคนเหล่านี้มากที่สุดแห่งหนึ่ง ทำให้การใช้ชีวิตการทำงานนั้นเราต้องระมัดระวังในสิ่งที่พูดให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นความจริงใจใดๆ ที่สื่อออกไปจะกลับมาเป็นโทษได้อย่างแน่นอน

วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

หนังสือพลังงานฉบับการ์ตูน แปลใหม่่ล่าสุดจากญี่ปุ่น ลดพิเศษนาทีทองเอาใจนักอ่าน 235 เหลือเพียง 195 บาท เท่านั้น



สนใจดูรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/powertpa
รายละเอียดสินค้า : ผู้แต่ง :Katsuhiro Saito 
ผู้แปล :ดร.อรรณพ เรืองวิเศษ 
ขนาด :Pocketbook 
ISBN :9789744436139 
จำนวนหน้า : 208 หน้า 
พิมพ์ 4 สีทั้งเล่ม 
ระดับผู้ใช้ : นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ 

***ระยะเวลา Pre sale วันที่ 20 ก.พ.-16 มี.ค.2558 ฟรีค่าจัดส่ง 
ทีมงานจะจัดส่งหนังสือให้ท่านเมื่อสิ้นสุดโปรโมชั่น และท่านจะได้รับหนังสือภายใน 7 วันนับจากวันที่จัดส่ง 

สนใจดูรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/powertpa

เนื้อหาโดยสังเขป 

ความรู้พื้นฐานเรื่องพลังงานต่าง ๆ ที่หลากหลาย รอบด้าน อ่านสนุก เข้าใจง่าย สำหรับนักเรียน นักศึกษา สายวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาถึงมหาวิทยาลัย 
เรียนรู้ความหมายและหลักการพื้นฐานเรื่องพลังงาน และศึกษาหลักการใช้พลังงานให้เป็นประโยชน์ ทั้งพลังงานแสง ไฟฟ้า ความร้อน เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ พลังงานทดแทน พลังงานนิวเคลียร์ 
รู้จักแหล่งพลังงานดั้งเดิม อย่างดวงอาทิตย์ ความร้อน การเผาไหม้ และพลังงานในธรรมชาติ อย่างแม่น้ำ มหาสมุทร หิมะบนภูเขา รวมถึงพลังงานสมัยใหม่ อย่างไฟฟ้าและพลังงานนิวเคลียร์ 
ทบทวนแหล่งพลังงานในปัจจุบันที่ใช้สะดวก แต่ก่อปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำมัน ถ่านหิน รู้จักพลังงานสะอาดที่หมุนเวียนได้ เช่น แสงอาทิตย์ น้ำ ลม ชีวมวล มหาสมุทร ความร้อนใต้พิภพ และค้นหาแหล่งพลังงานที่อาจใช้ได้ในอนาคต เพื่อทางออกที่ยั่งยืนของทุกปัญหาพลังงาน 

สนใจดูรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/powertpa

วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2558

การเดินทางจาก เมืองเชียงใหม่ - งานพืชสวนโลก ด้วยรถรับส่งฟรี และรถสองแถว


จุดบริการรถรับ-ส่ง 19 จุด ไปงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554
งานราชพฤกษ์ 2554 เชียงใหม่
จุดบริการรถรับ-ส่ง 19 จุด ไปงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554
จุดบริการรับ-ส่งที่ใกล้กับเกสต์เฮาส์ White Chalet B&B ได้แก่
-  เซ็ลทรัลกาดสวนแก้ว
-  ขนส่งช้างเผือก

Shuttle Bus ฟรี!  ออกทุกๆ 10 นาที  ไป 8.00 - 19.30 น.  กลับ  9.00 - 21.00 น.
- ศูนย์ราชการ
- สถานีรถไฟ

จุดบริการร่วมทั่วเมืองเชียงใหม่    เวลาบริการ  8.30 - 21.00 น.
-  สนามบินเชียงใหม่                             รถตู้ปรับอากาศ                40 บาท / เหมา 300 บาท
-  เจเจ มาร์เก็ต                                      รถสองแถว                        25 บาท / เหมา 150 บาท
-  เทสโก้โลตัส คำเที่ยง                         รถสองแถว                      25 บาท / เหมา 150 บาท
-  มีโชคพลาซ่า                                     รถสองแถว                       25 บาท / เหมา 150 บาท
-  แม็คโคร ปอยหลวง                            รถสองแถว                       25 บาท / เหมา 150 บาท
-  บิ๊กซี Extra                                         รถสองแถว                       25 บาท / เหมา 150 บาท
-  ขนส่งอาเขต                                      รถสองแถว                       25 บาท / เหมา 150 บาท
-  บิ๊กซี ดอนจั่น                                     รถสองแถว                       25 บาท / เหมา 150 บาท
-  โกบอลเฮาส์                                      รถสองแถว                       20 บาท / เหมา 100 บาท
-  กาดสวนแก้ว                                     รถสองแถว                       25 บาท / เหมา 150 บาท
-  เซ็นทรัลแอร์พอร์ต                            รถสองแถว                       20 บาท / เหมา 100 บาท
-  เทสโก้โลตัส หางดง                         รถสองแถว                       20 บาท / เหมา 100 บาท
-  บิ๊กซี หางดง                                     รถสองแถว                        20 บาท / เหมา 100 บาท
-  แม็คโคร หางดง                               รถสองแถว                        20 บาท / เหมา 100 บาท
-  ขนส่งช้างเผือก                                รถสองแถว                       25 บาท / เหมา 150 บาท
-  ตลาดวโรรส                                     รถสองแถว                       25 บาท / เหมา 150 บาท
-  กาดฝรั่ง                                           รถสองแถว                       20 บาท / เหมา 100 บาท

Credit : facebook.com/whitechalet
           : chiangmaiwhitechalet.com

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

โรงไฟฟ้าชีวมวล ภัยร้ายต่อชุมชน ผู้คน และธรรมชาติ

          ตอนพรีเซนต์โน้มน้าวชาวบ้านวาดฝันอย่างสวยงาม ทุกอย่างดีเลิศ เป็นมิตรกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านมีงานทำ นำเสนอแต่ข้อมูลด้านดี วิมานอากาศเหล่านั้นพังสลายไปเมื่อ โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลเดินเครื่อง พลิกสวรรค์เป็นนรก
          วิถีทางในการสรรค์หาพลังงงานไฟฟ้ามาใช้ในประเทศไทยเมืองที่กำลังต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น มาจากการซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน 52.28%  และผลิตได้เอง 47.72%  ส่วนของการผลิตเองนี่แหละเป็นต้นเหตุของปัญหา อย่างเช่น โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ที่เป็นเคราะห์กรรมของชาวบ้าน เป็นความเดือดร้อนของประชาชน แน่นอนว่าผลมาจากความ เห็นแก่ตัว ของผู้ผลิตพลังงาน ที่ไม่จัดการระบบผลิตให้ได้มาตรฐานอย่างสมบูรณ์ และชาวบ้านต่อสู้ไม่ชนะหรือชนะยากเมื่อได้สร้างโรงงานลงไปแล้ว

ปัญหามันเกิดจากปัจจัยเหล่านี้ ที่โรงไฟฟ้าไม่สามารถรับผิดชอบได้เพราะความเห็นแก่ตัว
1. ปัญหาน้ำเสีย จากการเก็บเชื้อเพลิงเช่นทลายปาล์มจำนวนมากเมื่อฝนตกจะชะล้างเอาน้ำเสียลงแหล่งน้ำ และการปล่อยน้ำจากการนำไปใช้ในกระบวนการสร้างพลังงานไฟฟ้า
2. ปัญหฝุ่นควัน เขม่า สารเคมีในอากาศจากการเผาไหม้
3. ปัญหาการจัดการหรือที่ทิ้งขี้เถ้า
4. ปัญหาเสียงรบกวน
5. ปัญหาฝุ่นและถนนพังจากรถบรรทุก


คุณประโยชน์มหาศาลจากการผลิตไฟฟ้านั้นมีแน่นอน แต่ปัญหาที่มีก็คือผู้ควบคุมและผู้ลงทุนมักง่าย เห็นแก่ตัว ไม่ลงทุนในส่วนที่รับผิดชอบต่อสังคม และเมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วไม่ว่าจะเป็นคำขอร้องใดๆ โรงไฟฟ้าชีวมวลก็ไม่เหลียวแล รับฟังแต่ไม่นำไปปฏิบัติ เป็นปัญหาเดียวกันแทบทุกที่เมื่อจะสร้างโรงงานเพิ่มในที่แห่งใหม่ก็เกิดการต่อต้าน เพราะการสกัดไม่ให้มีการสร้างเป็นวิธีที่ดีที่สุด


ตามตัวอย่างผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวล จ.กระบี่ (ตอนที่ 1)


ตามตัวอย่างผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวล จ.กระบี่ (ตอนที่ 2)


โรงไฟฟ้าชีวมวล กับทุกข์ของชาวบ้าน อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด

ตัวอย่างรูปโรงไฟฟ้าชีวมวล ภาพจาก manager.com

โรงไฟฟ้าชีวมวลในประเทศไทย
ภาพจาก http://www.thia.in.th/welcome/article_read/116
แนวคิดการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กกระจายทั่วทุกภาคเป็นแนวคิดที่ดี แต่เมื่อปฏิบัติรัฐไม่สามารถควบคุมให้อยู่ในกรอบมาตฐานความปลอดภัย และความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับโลกได้ มันก็ไม่ต่างจากยกโรงงานที่ปล่อยควันพิษ ปล่อยน้ำเสีย ปล่อยฝุ่นละอองสารเคมี เสียงรบกวน ไปไว้ในชุมชนที่มีธรรมชาติบริสุทธิ์ อากาศบริสุทธิ์ นั่นเท่ากับว่าได้ไม่คุ้มเสีย ทำลายมากกว่าสร้างสรรค์

เรียบเรียงโดย xsci

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พยากรณ์ 12 ราศี แบบตำราพรหมชาติ


พยากรณ์ 12 ราศี แบบตำราพรหมชาติ

ชายหญิงใด ต้องการอยากทราบว่า ในระยะปีใดดวงชะตาปีที่ตกนั้น จะดีหรือร้าย ท่านให้ถือหลักทำนายตามห้วงระยะปีที่ตกนั้นแล...

วิธีนับ....
ถ้าเจ้าชาตาประจำเกิดเป็นชาย ให้นับเริ่มต้นอายุจากเจดีย์เวียนไปทางขวามือให้ครบอายุปัจจุบันนี้...
ถ้าเจ้าชาตาเป็นหญิง ให้นับเริ่มต้นอายุจากเจดีย์เวียนไปทางซ้ายมือ จนครบอายุปัจจุบันนี้...

1. ถ้าตก เจดีย์ ท่านว่า ปีนั้นจะอยู่ร่มเย็นเป็นสุข จะมีสุขกายสบายใจ จะได้ทำบุญกุศลในศาสนา ปรารถนาสิ่งใด ย่อมได้สมใจนึกแล...

2. ถ้าตก ฉัตรเงิน ท่านว่า ปีนั้นจะมีลาภผลเงินทอง ใช้พอสบายไม่เดือดร้อนกายในครอบครัว ไปทางทิศใด จะมีคนอุปถัมภ์ค้ำชูพอประมาณแล...

3. ถ้าตก คอขาด ท่านว่า ปีนั้น จะประสบความร้อนอกร้อนใจ จะมีคดีความถึงโรงถึงศาล ทำให้ต้องเสียเงินทองของรัก ไม่มีเวลาประกอบอาชีพ ทำมาหากินอย่างปกติสุข ไม่ดีเลย...

4. ถ้าตก เรือนหลวง ท่านว่า ปีนั้นจะมีดีมีความสุขกายสบายใจ จะมีที่พึ่งพิงในความอนุเคราะห์ในเรื่องความเป็นอยู่ เป็นข้าราชการจะได้เลื่อนยศถาบรรดาศักดิ์ดีแล...

5. ถ้าตก ปราสาท ท่านว่าปีนั้นว่าจะมีความสุขอย่างยิ่ง จะประสบโชคลาภมากมายในชีวิต คิดสิ่งใดจะได้สมปรารถนา ดีนักแล...

6. ถ้าตก ราหู ท่าน ว่าปีนั้นจะเดือดร้อนใจอาจจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทเป็นคดีความ จะมีคนมาคอยยุแหย่ให้วุ่นวาย หรือ หาเรื่องราวให้เราต้องเดือนร้อน จะมีปวดหัวตัวร้อนเป็นประจำ ไม่ดีแล...

7. ถ้าตก ฉัตรทอง ท่านว่า ปีนั้นจะมีเกียรติยศปรากฏในฝูงชนทั่วไป ไปสารทิศใดๆจะมีคนคอยอุปถัมภ์ค้ำชู ไม่เดือนร้อนเลย ดีนักแล...

8. ถ้าตอก เทวดาขี่เต่า ท่านว่า ปีนั้นค่อนข้างดี จะมีคนคอยช่วยเหลือในหน้าที่การงาน แต่ระวังบริวารจะนำความเดือดร้อนมาให้ ดีปานกลางแล...

9. ถ้าตก คนต้องขื่อคา ท่านว่า ปีนั้นถึงคราวเคราะห์หามยามร้ายจะมีเรื่องวุ่นวายในบ้านและครอบครัวและตนเอง จะถูกจองจำหรือไม่มีความสุขกายสบายใจเลย

10. ถ้าตก พ่อหมอ ท่านว่า ปีนั้นจะมีคนมาขอความช่วยเหลือรับอาสาเจ้านายจะได้ดี แต่จะมีความสุขไม่มากนัก จะทุกข์กายทุกข์ใจพอประมาณ ดีปานกลางแล...

11. ถ้าตก แม่มด ท่านว่า ปีนั้นจะมีคนนำลาภมาให้ แต่ต้องแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือจากเจ้าชาตา มีความสบายใจพอประมาณแต่จะเหนื่อยใจ ดีปานกลางแล...

12. ถ้าตก นาคราช ท่านว่า ปีนั้นจะมีอำนาจวาสนา ชะตากำลังดี มีคนมาอ่อนน้อมยอมเป็นคนรับใช้ จะได้ลาภจากบริวารและผู้ใหญ่ แต่ให้ระวังคำพูดและอารมณ์ให้มาก ดีปานกลางแล...

หมายเหตุ
ดูภาพประกอบ อย่าลืม หญิงนับไปซ้าย ชายนับไปขวา จนครบเท่าอายุปัจจุบันของท่าน

วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แนะนำสถานที่ถ่ายภาพ, ถ่ายแบบ, Pre-Wedding Out Door

แนะนำสถานที่ถ่ายภาพ Pre-Wedding Out Door
ข้อมูลเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2011 เวลา 1:06 น.
ไม่ใช่ข้อมูลล่าสุดใช้เพื่อเป็นแนวทางได้

------------------------------------------------------------
สถานที่ ถ่ายรุป Out Door ในกรุงเทพฯ
------------------------------------------------------------
1. ร้านอาหารบ้านน้ำ เคียงดิน กับร้านปาเตะ
 ที่ตั้ง เส้นถนนพุทธมณฑลสาย 3 เลียบถนนอักษะ (อุทยาน) เบอร์ติดต่อ : 0-2441-3837
 บ้านน้ำเคียงดิน เปิดบริการ : จ - พฤ 17.00-24.00 น. / ศ-อา 16.00-24.00 น.

2. ร้าน cake walk http://www.bkkmenu.com/recommend/cakewalk.html#
 ที่ตั้ง : 21/3 ชั้น 1 ตึก Grand Heritage ซ.ทองหล่อ 13 สุขุมวิท 55 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เบอร์ติดต่อ : 0-2390-0145
ค่าสถานที่ 2,000 บาท / 2 ช.ม. สะดวกวัน จันทร์ - พฤหัส 11.00 - 14.00

3. เรือนบุษบา http://www.ruernboossaba.com/
 ที่ตั้ง หลังสวน เบอร์ติดต่อ 02-6521277  ค่าสถานที่ ชั่วโมงละ 1,000 บาท 2 ชั่วโมงคิด 1,500 บาท

4. แพนดานัส Pandanus bar bistro
 ที่ตั้ง สาทรซอย 1 เบอร์ติดต่อ 02-2874021  ค่าสถานที่ ช.ม. ละ 3,000 บาทจ้า

5. บ้านคึกฤทธิ์
ที่ตั้ง ซอบสวนพลู สาธร เบอร์ติดต่อ 02-2868185 โทรสาร 02-6793630
ค่าสถานที่ 1,000 บาทต่อ 1 ชุด หรือ 2,000 บาท ต่อวัน (ข้อมูลล่าสุด วันที่ 22 เม.ย. 51 จากคุณ Orange_B)
ถ่ายได้ทุกมุม ยกเว้นในห้อง บ้านทรงไทย ถ้าต้องการบรรยากาศไทยๆ

6. มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
 ที่ตั้ง บางนา กม 26 บางบ่อ
ค่าสถานที่ 3000 บาท จ่ายได้ที่ยามเลยครับ ศิษย์เก่า ฟรีครับ
เบอร์ติดต่อ 02-300-4543 ext. 1137 สะดวก เสาร์-อาทิตย์

วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

BRICS 5 ประเทศพัฒนาเร็วร่วมมือก่อตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาแข่งกับ IMF

5 ประเทศกลุ่ม BRICS กลุ่มประเทศพัฒนาเร็ว
ภาพจาก www.newzimbabwe.com

BRICS เป็นอักษรย่อของกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วประกอบด้วย
B Brazil
R Russia
I India
C China
S South Africa
          ทั้ง 5 ประเทศกลุ่ม BRICS มีการพัฒนารวดเร็วมากจนประมาณปี พ.ศ. 2593 เศรษฐกิจของกลุ่ม BRICS รวมกันร่ำรวยมากกว่าประเทศที่ร่ำรวยในปัจจุบัน และ พื้นที่ประเทศทั้งห้ารวมกันแล้วมากกว่าหนึ่งในสี่ของแผ่นดินโลก จำนวนประชากรรวมกันมากกว่า 40% ของประชากรโลกอีกด้วย

          เมื่อกลางสัปดาห์ที่สองของเดือนกรกฏาคม พ.ศ. 2557 BRICS ได้ร่วมมือกันก่อตั้ง "ธนาคารเพื่อการพัฒนา" เช่นเดียวกับ "ธนาคารโลก หรือ IMF" ซึ่งนั่นก็คือคู่แข่งของธนาคารโลกได้เกิดขึ้นแล้ว ทำให้การผูกขาดทางด้านเงินทุนของธนาคารโลกที่มีกลุ่มประเทศตะวันตกผูกขาดอำนาจอยู่นั้นมีราคาต่อรองลดลง ซุ่งมันจะคอยจ้องฉกฉวยผลประโยชน์บนความเดือดร้อนของประเทศต่างๆ อยู่เป็นนิจ ในวันที่ 15 - 17 กรกฏาคม 2557 ที่ผ่านมากลุ่ม BRICS ได้มีการจัดประชุมสุดยอดครั้งที่ 6 หรือ "BRICS SUMMIT" ที่ประเทศบราซิล บรรดาผู้นำ 5 ประเทศยักษ์ใหญ่ได้ร่วมกันแสดงจุดยืนในการก่อตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศครั้งนี้อย่างแข็งแกร่ง

          ทั้งนี้ สถาบันการเงินแห่งใหม่ ซึ่งจะมีชื่ออย่างไม่เป็นทางการในระยะเริ่มต้นว่า “New Development Bank” หรือ “NDB” ถูกระบุว่า จะมีเงินทุนแรกเริ่มราว 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ล้านดอลลาร์ในอนาคต โดยที่รัฐบาลทั้งของบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ จะควักกระเป๋าจ่ายเงินสมทบเข้าสู่ธนาคารแห่งใหม่นี้ในสัดส่วนที่เท่าเทียมกัน

          ขณะที่ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารหรือ “ซีอีโอ” คนแรกนั้น ที่ประชุมตกลงให้เป็นสิทธิ์ของอินเดีย ส่วนที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของเอ็นดีบีจะอยู่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ของจีนในส่วนของข้อตกลงตั้ง “กองทุนฉุกเฉิน” นั้น ที่ประชุมสุดยอดที่บราซิลเห็นพ้อง ให้ก่อตั้งขึ้นด้วยเงินทุนเริ่มต้น 100,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับรับมือความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น โดยรัฐบาลจีนจะรับหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของกองทุนที่ว่านี้ ด้วยวงเงินราว 41,000 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยบราซิล อินเดีย และรัสเซียอีกชาติละ 18,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนแอฟริกาใต้จะร่วมสมทบทุนราว 5,000 ล้านดอลลาร์
     
        จริงอยู่ที่ว่า อาจต้องใช้เวลาอีกกว่า 2 ปีกว่าที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งใหม่และกองทุนฉุกเฉินของ BRICS จะเริ่มดำเนินงานได้อย่างเป็นทางการ แต่ข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นก็ถือเป็น “ความหวังใหม่” สำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่อาจได้มีโอกาสในการปลดแอกตัวเองจากการครอบงำของประเทศร่ำรวยในโลกตะวันตกที่ผูกขาดครองอำนาจในระบบเศรษฐกิจและการเงินโลกมาช้านาน และเชื่อว่าการที่ประเทศกำลังพัฒนาจะผนึกกำลังกัน “เลิกง้องอนตะวันตก” คราวนี้ คงสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับสหรัฐฯและยุโรปไม่น้อยทีเดียว

ส่วนหนึ่งเรียบเรียงโดย xsci
manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000081260
http://th.wikipedia.org/wiki/BRICS

วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ขัอควรรู้เกี่ยวกับประกันสังคม Thai Social Insurance

1. กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- ได้รับสิทธิต่อเมื่อส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือนภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนการเจ็บป่วย
- ผู้ประกันตนเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลตามบัตรรับาองสิทธิ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จนสิ้นสุดการรักษา
กรณีไม่เข้า ร.พ. ตามบัตร (เบิกได้เฉพาะกรณีฉุกเฉินและอุบัติเหตุเท่านั้น) (ป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุเบิกได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)

 เข้า รพ. ของรัฐ
1. ผู้ป่วยนอก สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้เท่าที่จ่ายจริง
2. ผู้ป่วยใน สามารถเบิกค่ารักษาพยายาลได้เท่าที่จ่ายจริงภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง

เข้า รพ. เอกชน
1. ผู้ป่วยนอก เบิกค่าบริการทางการแพทย์เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,000 บาท แต่สามารถเบิกค่าบริการทางการแพทย์ได้เกินกว่า 1,000 บาทตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ได้แก่
1.1 การรับเลือดหรือส่วนประกอบของเลือดเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 500 บาทต่อยูนิต
1.2 สารต่อต้านพิษจากเชื้อบาดทะยักชนิดทำจากมนุษย์เท่าที่จ่ายไม่เกิน 400 บาท/ราย
1.3 ค่าวัคซีน / เซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
**Rabies Vaccine เฉพาะเข็มแรกเท่าท่จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท
**Rabies antiserum ERIG เฉพาะเข็มแรก เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 8,000 บาท
1.4 อัลตร้าซาวด์กรณีฉุกเฺฉินเฉียบพลันในช่องท้อง เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,000 บาท
1.5 CT SCAN เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 4,000 บาท, MRI SCAN เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 8,000 บาท ทั้งนี้ตามเกณฑ์ที่กำหนด
1.6 การขูดมดลูก เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 2,500 บาท เฉพาะภาวะตกเลือดหลังจากการคลอดหรือการแท้งบุตร
1.7 ค่าฟื้นคืนชีพรวมค่ายาและอุปกรณ์ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 4,000 บาท
1.8 อยู่ในห้องสังเกตุอาการตั้งแต่ 3 ชั่วโมงขึ้นไป เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท

วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การดูแลสุขภาพช่วงฟุตบอลโลก health for 2014 FIFA World Cup All in One Rhythm


          ในรอบเวลา 4 ปีครั้ง กับการรอคอยฟุตบอลโลกของหลายๆ คน ก็มาถึง ในปี 2014 และนับตั้งแต่ปี 1930  จัดขึ้นที่ประเทศอุรุกวัยเป็นครั้งแรกซึ่งครั้งนี้ไม่มีการแข่งขันเพื่อคัดเลือกทีมเข้าแข่ง แต่เป็นการเชิญเข้าแข่งขัน ในปี 2014 จัดขึ้นที่ประเทศบราซิล สโลแกนของฟุตบอลโลกครั้งนี้คือ All in One Rhythm หมายความว่าอย่างไร แปลความว่า ทุกสิ่งทุกอย่างสอดคล้องกันเป็นหนึ่งเดียว หรือ มีความนัยว่า ความสามัคคีและเป็นหนึ่งเดียวของทุกคนในโลกใบนี้นั่นเอง  ความตั้งใจในการติดตามชมก็ยิ่งเพิ่มมากยิ่งขึ้นทุ่มเทมากขึ้นแต่ด้วยเวลาถ่ายทอดสดจากบราซิลไม่ตรงเวลาปกติในประเทศไทย สิ่งที่ตามมาอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ เรามาดูกันว่าอะไรบ้างที่จะเป็นผลดีผลเสียต่อสุขภาพ

1. การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระหว่างดูฟุตบอลนั้น ทำให้ควบคุมสติอารมณ์ได้น้อย และทำให้ตื่นเช้ามาไม่สดใส
2. การอดนอน นอนน้อยทำให้ส่งผลเสียต่อสมดุลนาฬิกาธรรมชาติของร่างกายคนเรา ทำให้สมองล้า เซื่องซึม มึนงง ประสิทธิภาพการจำลดลง เสี่ยงเป็นมะเร็งบางชนิด จึงมีคำแนะนำว่าแม้จะนอนดึกก็ควรตื่นเช้าเช่นเดิม เพื่อรักษาวงจรนาฬิการ่างกาย
3. การดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง เพื่อที่จะแก้ง่วงอาจได้พลังงานที่เกินความจำเป็นเป็นของแถม เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้เน้นการให้พลังงานเสริมสำหรับคนที่ใช้พลังงานมาก มักจะมีส่วนผสมของวิตามินอยู่ด้วยในระดับหนึ่ง
4. ขนมขบเคี้ยว เพิ่มอรรถรสในการดู อย่างเช่นมันฝรั่ง ป๊อบคอร์น หรืออื่นๆ  เท่าที่ทราบกันดีอาหารกลุ่มนี้จัดเป็นสารเร่งความอ้วนอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่อุดมไปด้วยแป้ง น้ำตาล ไขมัน คอเลสเตอรอล และนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความอ้วน คนที่อ้วนอยู่แล้วก็เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับตัวเอง
5. การดื่มกาแฟ ทำให้ได้รับคาเฟอีนเข้าไป เป็นสารที่กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางและเมแทบอลิซึม กระตุ้นการทำงานของสมองให้กระปรี้กระเปร่านั่นประโยชน์ที่เราได้ก็คือแก้ง่วง ส่วนโทษของกาแฟเมื่อดื่มติดต่อเป็นประจำทำให้เข้าสู่สภาวะเสพติดคาเฟอีน (cafeinism) ผลต่อร่างกายคือ กระสับกระส่าย วิตกกังวล กล้ามเนื้อกระตุก นอนไม่หลับ ใจสั่น ในระยะยาวทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กอักเสบและโรคน้ำย่อยไหลย้อนกลับ
6. ดื่มน้ำให้เพียงพอ ต่อความต้องการของร่างกายวันละ 1.5-2 ลิตร หรือประมาณ 10 แก้วต่อวันถ้าดื่มน้ำน้อยกว่านี้ทำให้เลือดไหลเวียดไม่สะดวกและร่างกายขับของเสียได้ยาก
7. การตะโกนเชียร์เสียงดัง ถ้าบ้านคุณไม่สามารถเก็บเสียงได้มิดชิดอาจเป็นการรบกวนเพื่อนบ้านได้

          ไม่ว่าเกมส์นี้จะจบลงด้วยน้ำตาผู้แพ้หรือรอยยิ้มแห่งชัยชนะ แต่สุขภาพยังคงต้องรักษาไว้ให้คงทนสำหรับตอกย้ำชัยชนะหรือซ้ำเติมความพ่ายแพ้ในครั้งต่อไป ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพฤติกรรมการใช้ชีวิตของหลายๆ ท่านในช่วงฟุตบอลโลก หรือไม่แน่บางอย่างอาจเป็นกิจวัตรที่ทำมาตลอดก็เป็นได้ ควรหันกลับมาให้ความสำคัญกับสุขภาพเป็นการป้องกันดีกว่าที่จะต้องรักษาในภายหลังเป็นการดีกว่าแน่นอน

บทความโดย : xsci

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ฌานทั้ง ๕ คือ วิตก วิจารณ์ ปิติ สุข เอกัคคตา meditative absorption

          เพื่อให้ได้ปัญญาในธรรม ในการปฏิบัติสมาธินั้น แนวทางปฏิบัติทั่วไป ก็อาศัยแนวทางแห่งองค์ทั้ง ๕ ของปฐมฌาน คือฌานที่ ๑ อันคำว่า ฌาน นั้นตามศัพท์แปลว่าความเพ่ง หมายถึงจิตที่เพ่งแนบแน่น เป็นอัปปนาสมาธิ คือสมาธิที่แนบแน่น จึงจะเรียกว่าฌานคือความเพ่ง เป็นความเพ่งของจิตในกรรมฐานอย่างแนบแน่น จึงจะเรียกว่าฌาน ซึ่งอัปปนาสมาธิ สมาธิอย่างแนบแน่นอันเรียกว่าฌานนั้น ก็ยังมีลักษณะของความแนบแน่นเป็นชั้นๆขึ้นไป

          สำหรับในชั้นแรกซึ่งเป็นปฐมฌานความเพ่งที่ ๑ นั้น มีองค์ ๕ คือ ๑ วิตก ความยกจิตขึ้นสู่อารมณ์กรรมฐาน ซึ่งเราแปลกันทั่วไปว่าความตรึก แต่ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความตรึกนึกคิดทั่วไป แต่หมายถึงความตรึกนึกกำหนดในอารมณ์ของกรรมฐานเท่านั้น ๒ วิจาร ความตรอง ที่แปลกันทั่วไปว่าความตรอง แต่สำหรับสมาธิหมายถึงความประคองจิตไว้ในอารมณ์ของกรรมฐาน คือให้ตรึกนึกกำหนดอยู่จำเพาะอารมณ์ของกรรมฐานเท่านั้น ความที่คอยประคองจิตไว้ดั่งนี้เรียกว่าวิจาร ซึ่งมักแปลกันทั่วไปว่าความตรอง แต่ไม่ได้หมายความถึงความตรองเรื่องอะไรต่ออะไร ๓ ปีติ ความอิ่มใจดูดดื่มใจ ๔ สุข ความสบายกายความสบายใจ และ ๕ เอกัคคตา ความที่จิตมีอารมณ์อันเดียว ซึ่งเป็นลักษณะของสมาธิโดยตรง เพราะสมาธิโดยตรงนั้นจะต้องมีเอกัคคตา คือความที่จิตมีอารมณ์เป็นอันเดียว หรือความมีอารมณ์เป็นอันเดียวกันของจิต เรียกว่าเอกัคคตาเป็นลักษณะของสมาธิทั่วไป องค์ทั้ง ๕ นี้เป็นองค์ของฌาน ตั้งต้นแต่ปฐมฌานคือฌานที่ ๑ แต่แม้ว่าจิตจะยังไม่เป็นสมาธิแนบแน่นถึงปฐมฌาน ในการปฏิบัติสมาธิตั้งแต่เบื้องต้นที่เป็นขั้น บริกัมมภาวนา การภาวนาเริ่มต้น อุปจารภาวนา ภาวนาที่จิตเป็นสมาธิใกล้จะแนบแน่น ก็จะต้องอาศัยการปฏิบัติในองค์ฌานทั้ง ๕ นี้ เป็นอันว่าจะต้องมีการอาศัยองค์ฌานทั้ง ๕ นี้ปฏิบัติตั้งแต่ในเบื้องต้น คือ ๑ ในการเริ่มปฏิบัติในขั้นบริกัมมภาวนา ก็จะต้องมีวิตก คือความยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ของสมาธิ ดั่งเช่นจะยกเอาลมหายใจเข้า ลมหายใจเข้าออกเป็นอารมณ์ของสมาธิ คือเป็นกรรมฐานที่จะปฏิบัติ ก็ต้องยกจิตมากำหนดอยู่ที่ลมหายใจเข้าลมหายใจออก ตั้งต้นแต่ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนเอาไว้ว่านั่งกายตรง ดำรงสติมั่น จำเพาะหน้า คือนำสติมาตั้งอยู่จำเพาะลมหายใจเข้าออก เรียกว่าจำเพาะหน้า เพราะว่าต้องการลมหายใจเข้าออกมาเป็นกรรมฐาน ลมหายใจเข้าออกจึงได้ถูกยกขึ้นมาไว้จำเพาะหน้า จำเพาะหน้าของจิตนั้นเอง เหมือนอย่างจิตเป็นบุคคล ก็มีหน้าจับอยู่ที่ลมหายใจเข้าลมหายใจออก ดูอยู่ที่ลมหายใจเข้าลมหายใจออก เห็นอยู่ที่ลมหายใจเข้าลมหายใจออก ด้วยสติคือความกำหนด อาการที่ยกจิตขึ้นสู่ลมหายใจเข้าออก กำหนดอยู่ด้วยสติ หายใจเข้าก็ให้รู้ หายใจออกก็ให้รู้ ดั่งนี้เรียกว่าวิตกคือความตรึก ต้องใช้วิตกคือความตรึกนี้ ตรึกถึงสมาธิ คือตรึกถึงอารมณ์ของสมาธิ แต่ไม่ตรึกนึกคิดไปในเรื่องอื่นตั้งแต่ในเริ่มต้น อันนี้แหละเป็นตัวบริกัมมภาวนา คือการภาวนาที่เป็นการปฏิบัติเบื้องต้น ต้องมีการกระทำโดยรอบ

วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2557

วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา-wat phrasisanphet

          วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดสำคัญที่สุดของราชสำนักอยุธยา มีฐานะเป็นวัดส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ในเขตพระราชฐาน จึงไม่มีพระสงฆ์จำอยู่ในวัด พื้นที่ตั้งของวัด เดิมเป็นที่ตั้งของพระราชมณเฑียรอันเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ พระบรมไตรโลกนาถได้ทรงยกพื้นที่นี้ให้เป็นเขตพุทธาวาส เมื่อปี พ.ศ.1991 เรียกว่า วัดพระศรีสรรเพชญ์ แล้วย้ายบรรดาพระราชมณเฑียรเลยขึ้นไปทางทิศเหนือ ต่อจากเขตวัดไปจนจรดริมแม่น้ำลพบุรีในปัจจุบัน วัดพระศรีสรรเพชญ์ใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เช่น พระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา (ปีละ 2 ครั้ง) ตลอดจนใช้เป็นที่เก็บพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์อยุธยาเกือบทุกพระองค์ เป็นต้น
          บริเวณใจกลางสุด มีพระเจดีย์ขนาดใหญ่ 3 องค์ สลับระหว่างกลางแต่ละองค์ด้วยมณฑปอีก 3 หลัง ปลายทิศตะวันตกของพระเจดีย์องค์สุดท้ายมีฐานของพระวิหารจัตุรมุข โดยตรงกลางมีเจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิ ส่วนมุขทั้งสี่ด้านเชื่อว่าเคยมีพระพุทธรูปนั่ง ยืน นอน และเดิน ด้านทิศตะวันออกต่อกับเจดีย์องค์แรกเป็นวิหารสำคัญที่สุด เพราะบริเวณด้านท้าย ซึ่งเรียกว่า ท้ายจระนำ ใช้เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์องค์ต่างๆ ในวิหารเคยมีพระพุทธรูปหุ้มทองคำหนัก 286 ชั่ง (หรือหนักเท่ากับ 12,880 บาท) ประทับยืนสูงถึง 8 วา มีพระนามว่า พระศรีสรรเพชญ์ ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญที่สุดในสมัยอยุธยา
          พระวิหารหลวงหรือวิหารพระศรีสรรเพชญ์นี้ถูกขนาบด้วยวิหารพระโลกนาถอยู่ด้านทิศเหนือ ส่วนทิศใต้เป็นวิหารพระป่าเลไลยก์ ถัดต่อทางด้านหน้าเป็นพระวิหาร(ทิศเหนือ) และพระอุโบสถ(ทิศใต้) อาคารทั้งหมดนี้ถูกล้อมรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าด้วยพระเจดีย์สลับกับวิหารแกลบอย่างได้สัดส่วนยิ่ง
          วัดนี้ถูกเผาไปเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาให้พม่า ครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2310 พม่าได้ปล้นสะดมทรัพย์จำนวนมาก ทั้งที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาและที่ได้มาจากการที่สยามยึดมาจากพระนครธม ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ พม่าได้เอาไฟสำรอกทองหุ้มองค์พระศรีสรรเพชญ์ คงเหลือแต่แกนในพระซึ่งทำด้วยสำริด เมื่อคราวตั้งกรุงเทพฯ นั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้อัญเชิญแกนในพระศรีสรรเพชญ์ลงไปด้วย ทรงสร้างพระเจดีย์หุ้มแกนพระองค์นี้เอาไว้ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) แล้วถวายพระนามตามท่านว่า เจดีย์พระศรีสรรเพชญ์ดาญาณ
           ภาพเจดีย์สามองค์เรียงซ้อนกันเช่นภาพนี้ กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงอยุธยาได้อย่างชัดเจน และเป็นที่แพร่หลายเป็นเอกลักษณ์ของเมือง ปัจจุบันวัดพระศรีสรรเพชญมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนกล่าวได้ว่าไม่มีคณะทัวร์ไหนที่จะไม่ขาดโปรแกรมการมาชมวัดพระศรีสรรเพชญเลย เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นอดีตพระอารามในพระราชวังกรุงศรีอยุธยา และเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการได้มาเที่ยวอยุธยานักท่องเที่ยวจึงนิยมการถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก
          เจดีย์ทั้งสามองค์นี้...ชาวอยุธยามักกล่าวติดปากว่า "เจดีย์สามพี่น้อง" ด้วยความไม่เข้าใจในประวัติศาสตร์ อันที่จริงแล้ว เจดีย์ทั้งสามมีฐานะเปรียบดังเครือญาติได้ดังนี้ เจดีย์องค์แรก(ด้านขวา)คือเจดีย์พระบิดา สร้างเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เจดีย์องค์กลาง คือเจดีย์โอรสองค์ใหญ่ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 และองค์สุดท้ายด้านซ้าย คือเจดีย์โอรสองค์รอง สมเด็จพระรามาธิปดีที่ 2 ถ้าจะเปรียบดังเครื่องญาติแล้วก็คือ เจดีย์ พ่อ ลูกคนโต ลูกคนเล็ก จึงจะถูกต้อง

เนื้อหาจาก :  ayutthayastudies.aru.ac.th/content/view/202/116/





วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557

ลืมหัวใจไว้ที่เชียงตุง-Chiang Tung-Keng tung)

 แนะนำฟัง FM เพลงเชียงตุง เพียง Copy Link นี้ไปวางใน Winamp หรือ VLC  http://radio.dwebsalehost.com:8020/

หนองตุง ที่มาของชื่อเมืองเชียงตุง
          นครเขมรัฐตุงคบุรี มีความเป็นชาติครบถ้วน ทั้งศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี ภาษา สังคม มีประชาชนที่หวงแหนในองค์ประกอบความเป็นชาติ ไทใหญ่ ไทเขิน มีภาษาพูดที่ใกล้เคียงภาษาไทย
กว่า 80% มีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ร่วมกันมาตั้งแต่โบราณ ทั้งเคยร่วมรบกันในสงคราม ประวัติศาสตร์ยังเชื่อมไทยกับไทใหญ่ไว้ร่วมกัน ไทใหญ่ เชียงตุง เชียงรุ่ง เชียงใหม่ ล้วนเป็นเครือญาติกัน ไม่ได้รู้สึกเป็นมิตรกับพม่าแต่กลับเป็นมิตรกับไทยมากกว่า ในยุคที่มีการเปิดเสรีค้าฝิ่นเมืองเชียงตุงรุ่งเรืองกว่าเมืองไหนๆ ในแถบนี้ แต่เมื่อยกเลิกค้าฝิ่นบ้านเมืองก็หยุดเจริญเติบโตและพัฒนาช้า ทำให้เมืองเชียงใหม่ เชียงรายพัฒนาก้าวหน้าล้ำกว่า  ชาวไทใหญ่เรียกชื่อเมืองนี้ว่า เก็งตุ๋ง (Keng tung)ในอดีต เชียงตุงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางการค้าเชื่อมต่อระหว่างสิบสองปันนากับล้านนา โดยมีพ่อค้าชาวจีนฮ่อเดินทางไปมาค้าขายในเส้นทางนี้
           เชียงตุงมีประชากรหลากหลายชาติพันธุ์อาศัยอยู่ร่วมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นชาวไทขึนหรือไทเขิน มีไทใหญ่ และ พม่า ลองลงมา ยังมีชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น อาข่า ปะด่อง ว้า ลาฮู ลีซอ ลัวะ เผ่าแอน ฯลฯ รวมทั้งสิ้น 37 เผ่า เชียงตุงมีที่มาจากชื่อแม่น้ำน้ำขึน หรือฝืน มาจากแม่น้ำไหลย้อนขึ้นทางเหนือไม่เหมือนแม่น้ำทั่วไป ชาวไทลื้อที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำแห่งนี้จึงเรียกตัวเองว่าชาวไทขึน มีความสามารถโดดเด่นในการสานไม้ไผ่แบบลวดลายละเอียดมากเป็นภาชนะแล้วเคลือบด้วยยางไม้สีแดง เรียกว่าเครื่องเขิน ไทยภาคกลางจึงเรียกกลุ่มชนเหล่านี้ว่า ไทเขิน ในอีกความหมายหนึ่งด้วย หรือในภาษาล้านนาเรียกว่า ครัวฮักครัวหาง ลักษณะเด่นอีกอย่างของเมืองเชียงตุงคือมีวัดจำนวนมากหรือเรียกว่าเมืองร้อยวัด และวัดส่วนใหญ่ในเชียงตุงจะมีอายุ 600 กว่าปี มีความเก่าแก่ร่วมสมัยกับ เชียงใหม่ เชียงแสน น่าน สุโขทัย มีอายุมากกว่า อยุธยา 100-200 ปี มากกว่ารัตนโกสินทร์ 400 ปี
          ในปัจจุบันเชียงตุงเป็นภาพย้อนกาลเวลาของเมืองไทยเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน ที่นั่นคือภาพอดีตที่ไม่ใช่อยู่ในหน้าตำราหรือภาพถ่าย แต่เป็นภาพชีวิตจริง ความดีงามข้องน้ำจิตน้ำใจ การเข้าถึงวัดเข้าถึงธรรม คุณธรรม ศีลธรรม มีอยู่สูงมาก ในเมืองนี้มีวัดจำนวนมาก การเดินทางไปเชียงตุงในปัจจุบันสามารถเดินทางได้สะดวกโดยทางรถยนต์เริ่มต้นจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังจากจัดการเรื่องเอกสารผ่านแดน ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย หากทำบอเดอร์พาส ใช้แค่บัตรประชาชนยื่น จ่ายค่าธรรมเนียมเราก็จะได้เอกสารผ่านแดนฝั่งไทย จากนั้นเตรียมสำเนาบัตรประชาชน 1 ใบ พร้อมรูปถ่าย 1 นิ้ว เพื่อยื่นเอกสารผ่านแดนฝั่งพม่า เอกสารดังกล่าวจะถูกเก็บไว้ที่ไกด์ ไกด์จะเป็นผู้ดูแล จนกว่าจะกลับ เริ่มการเดินทางจากด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก มุ่งหน้าไปตามถนน NH4 ระยะทาง 165 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 4 ชม. ด้วยรถยนต์ ถนนลาดยาง 2 เลนส์ วิ่งเลนขวา

สิ่งต้องห้ามก็คือการถ่ายภาพทหารและด่านตรวจ
ด่านที่ 1 ตรวจคือด่านบ้านแม่ยาง (สำเนียงไทขึน เรียกว่า หมากยาง)
ค่าธรรมเนียม  10 บาท พร้อมเช็คเอกสารจากไกด์

ด่านที่ 2  คือ เมืองท่าเดื่อ (สำเนียงไทขึน เรียกว่า ต้าเลอ หรือ ต้าเล)
ค่าธรรมเนียม  50 บาท พร้อมเช็คเอกสารจากไกด์

จุดที่ 3 คือ ด่านเมืองพยาก (สำเนียงไทขึน เรียกว่า เมืองเพี๊ยก หรือเมืองแพรก)
ค่าธรรมเนียม  10 บาท พร้อมเช็คเอกสารจากไกด์
ค่าอัดฉีดรถยนต์    10 บาท

จุดที่ 4 คือ ด่านเมืองเชียงตุง  20 บาทไทย พร้อมเช็คเอกสารจากไกด์
ค่าอัดฉีดรถยนต์    10 บาทไทย
ทุกด่านจะมีค่าตาชั่งรถยนต์ อีก 5 บาท

ต้องมีไกด์ประจำทริป
          การจ้างไกด์นี่เป็นกฎหมาย (เริ่มใช้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552) ว่านักท่องเที่ยวจะต้องมีไกด์คนพม่านำเที่ยวด้วยทุกครั้ง ทุกด่าน พร้อมค่าธรรมเนียม 1,000 บาทต่อวัน ค่าธรรมเนียมนั้น จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือไกด์ 600 บาท รัฐบาล 400 บาท

หน้าที่คล้ายกัน
Keng Tung 2013
ตำนานเมืองเชียงตุง
รู้จักเส้นทางเศรษฐกิจสายอาเซียน GMS Economic Corridors


วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2557

ภูกระดึง ภูรูปหัวใจในเดือนแห่งความรัก



1. จุดเริ่มต้นและบทพิสูจน์
          เป็นก้าวแรกของการเดินทางชมธรรมชาติ เป็นระยะทางที่ต้องเดินพิสูจน์ความอดทน เป็นครั้งแรกที่จะตัดสินว่ารักภูแห่งนี้และไม่มีวันเบื่อที่จะมาอีกครั้ง หรือจะไม่กลับมาอีกเลย แต่สำหรับผมไม่มีคำว่าเบื่อที่จะกลับมาอีกครั้ง ครั้งเล่าที่มาเยือน หลายคนก็หลงรักภูแห่งนี้เช่นเดียวกับผม ภูรูปหัวใจแห่งนี้ คือหัวใจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีเสนห์ตราตรึงจนไม่อาจจะลืมได้เลย


          ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมผมถึงยังอยากไปซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่มีภาพติดตาในหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น บรรยากาศที่พิเศษไม่เหมือนพื้นดินเบื้องล่างมีพรรณแมกไม้แปลกตา อากาศเย็นสบาย มีทรายละเอียดเหมือนชายหาด มีทะเลหมอก มีตะวันตกดินที่สวยตราตรึง มีสัตว์ป่า มีต้นไม้ชนิดเดียวกับแถบยุโรป มีน้ำตกหลายแห่ง เป็นต้นลำน้ำพอง มีความเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิแบบเฉียบพลันหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน จากปกติเข้าสู่หนาวจนไม่กล้าอาบน้ำ ทั้งๆ ที่ตอนกลางวันอยากอาบน้ำมาก


ธรณีสัณฐาน และลักษณะเส้นทางเดินขึ้นภูกระดึง
ที่ตั้ง     จังหวัดเลย
พื้นที่     217,576.25 ไร่ (348.12 ตร.กม.)
สถาปนา     23 พฤศจิกายน 250
มีความสูงอยู่ระหว่าง 400-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล 

ผานกเค้าเมื่อถึงที่นี่...ก็คือสัญญลักษณ์ที่บอกว่าถึงเขตภูกระดึงแล้ว อย่าลืมแวะไปซื้อมะพร้าวแก้วเลิศรสร้านเจ๊กิม


ความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญในการเดินทางครั้งนี้
          ด้านสุขภาพ ควรต้องมีการฟิตซ้อมร่างกายเพื่อให้กล้ามเนื้อรับได้กับการเดินระยะทางไกลประมาณ 40 กิโลเมตร ในเวลา 2 วันได้ เพราะฉะนั้นควรออกกำลังกายโดยการวิ่ง ด้านการเตรียมยา คลายกล้ามเนื้อ นีโอฟีแน็ค ยาแก้ปวดเส้นเอ็น ยาพารา ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้ท้องอืดท้อเฟ้อ การเดินขึ้นภูต้องใช้เวลา 4 - 8 ชั่วโมง แล้วแต่ความฟิตหรือบางคนเสพบรรยากาศข้างทางจนเพลินก็จะถึงช้าหน่อย แต่การเดินระยะไกลขนาดนี้วิธีที่ดีที่สุดคือการถนอมตัวเองไม่ให้บาดเจ็บไปเสียก่อนรวมถึงการประหยัดพลังเผื่อวันเดินกลับด้วยครับ
          ระหว่างทาง นับตั้งแต่เริ่มก้าวผ่านประตูอุทยานเข้าสู่ภูกระดึงจุดแรกสุดเป็นเส้นทางวัดใจซึ่งเป็นเนินชัน 800 เมตร ชื่อว่า ซำแฮก ซึ่งก็แฮกจริงอย่างชื่อเรียกเมื่อขึ้นถึงซำนี้แล้วอาจต้องถามตัวเองซ้ำว่าเราจะไปต่อจริงหรือ หรือว่าจะกลับดี ซำนี้เป็นซ้ำแรกที่มีจุดขายของกิน ทั้งส้มตำ ข้าวปลา น้ำดื่มเย็น น้ำเกลือแร่ยี่ห้อต่างๆ ของใช้ให้บริการรวมถึงห้องน้ำเป็นการชาร์ตพลัง เดินชมบริเวณจุดชมวิวเห็นวิวตัวเมืองไกล ๆ ถ่ายรูปคู่กับป้าย ดูป้ายซ้ำถัดไปจากนั้นก็เดินทางต่อสู่ บทถัดไปซึ่งไม่ชันมากนัก

วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

เวลาชีวิตเดินช้าลง...ที่เกาะพยาม จ. ระนอง



 “คอคอดกระ ภูเขาหญ้า กาหยูหวาน ธารน้ำแร่ มุกแท้เมืองระนอง” หลายคนตามแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดจากคำขวัญประจำจังหวัดเพราะสิ่งที่ถูกยกมาเป็นคำขวัญได้ต้องมีความพิเศษเฉพาะตัว
          หลังจากอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนจากธรรมชาติพรรั้งแล้ว เราก็อยากเติมเต็มด้วยการเที่ยวทะเลหาดทรายละเอียดสวยน้ำใสกันต่อ แต่ทะเลที่ไหนจะสวยพอที่จะหยุดเวลาชีวิตให้ช้าลง หลบลี้พาชีวิตสู่ธรรมชาติสันโดษสงบ  ที่ไหนจะตอบโจทย์ได้ทั้งหมดถ้าตอนนี้อยู่ที่ตัวเมืองระนอง “เกาะพยาม” เกาะแห่งนี้กระซิบบอกเบาๆ ให้ไปพิสูจน์ว่าที่นี่แหละพร้อมจะมอบสิ่งที่คุณต้องการ
           ระนองมีเกาะขนาดใหญ่คือเกาะช้าง และห่างมาทางใต้ 4 กิโลเมตร มีเกาะรองลงมาก็คือ เกาะพยาม นับระยะทางจากท่าเรือ 30 กิโลเมตร ที่นี่ยังคงความสวยงามแบบธรรมชาติดั้งเดิม ความเจริญมาบุกรุกน้อยยังมีความเป็นป่า มีสัตว์ป่าเช่น นก ลิง หมูป่า มีอ่าวหลัก ๆ คือ อ่าวไผ่ อ่าวแม่หม้าย อ่าวใหญ่ อ่าวเขาควาย อ่าวกวางปีบ แต่ถึงแม้ว่าที่นี่ยังไม่ค่อยเจริญแต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งอินเตอร์เน็ต 3G, Wifi ให้บริการสำหรับคนที่อยากอัพภาพสวย ๆ สู่โซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือเช็คอินให้เพื่อนๆ  อิจฉาว่ากำลังอยู่มัลดีฟเมืองไทย ยามค่ำคืนยังมีสิ่งบันเทิงเริงใจให้บริการแถบชายหาดอ่าวใหญ่เป็นเครื่องดื่มหลายๆ แบบตามแต่จะเร้าอารมณ์แบบไหน
         ที่พักบนเกาะพยามมีพร้อมต้นรับนักท่องเที่ยวในหลายระดับราคาเริ่มต้น 200-600 ถ้าติดทะเลก็ขยับขึ้นมาที่ 800-1,500  และแบบหรูก็ 8,000 มีทั้งแบบติดแอร์และแอร์ธรรมชาติ นี่เป็นอีกอย่างที่บ่งชี้ให้เห็นว่าความเจริญยังเข้ามาไม่มากยังมีความสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบไม่วุ่นวาย จึงเป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการความสงบเป็นส่วนตัว การเดินทางบนเกาะมีรถมอเตอร์ไซด์และจักรยานให้เช่า มีมอเตอร์ไซด์รับจ้างให้บริการ บนถนนคอนกรีต แต่ไม่มีรถยนต์มีเพียงรถอีแต๊กขนส่ง
         การเดินทางไปเกาะ จากท่าเรือเกาะพยาม เริ่มต้นที่ ท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ จ. ระนอง ที่ช่วงเช้าคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีเรือให้เลือกใช้บริการกัน 2 แบบ 2 ราคา แบบช้าหวานเย็น หรือแบบเร็วทันใจ
Speed Boat ให้บริการในเวลา  9.00 น. และ 13.00 น. ราคา 350 บาท ต่อคน ใช้เวลาเดินทาง 30-45 นาที มีความคล่องตัวสูงวิ่งด้วยความเร็วปรี๊ด
Slow Boat เรือประมงดัดแปลง ให้บริการเที่ยวแรก 10.00 น หรือ 11.30 น. ต้องดูสภาพน้ำขึ้นน้ำลง ถ้าน้ำลงเรือจะออกช้ากว่าปกติเพราะออกจากท่าไม่ได้ ค่าบริการ 250 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง ถ้าไม่เร่งรีบอยากดื่มด่ำกับทะเลและการเดินทางหลับไปบ้างตื่นมาดูความงามของทะเลบ้าง แต่ทั้งสองแบบแนะนำให้ไปถึงท่าเรืออย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
        ที่พักบนเกาะพยามมีพร้อมต้นรับนักท่องเที่ยวในหลายระดับราคาเริ่มต้น 200 - 600 ถ้าติดทะเลก็ขยับขึ้นมาที่ 800-1,500  และแบบหรูก็ 8,000 มีทั้งแบบติดแอร์และแอร์ธรรมชาติ
        นี่เป็นอีกอย่างที่บ่งชี้ให้เห็นว่าความเจริญยังเข้ามาไม่มากยังมีความสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบไม่วุ่นวาย จึงเป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการความสงบเป็นส่วนตัว การเดินทางบนเกาะมีรถมอเตอร์ไซด์และจักรยานให้เช่า มีมอเตอร์ไซด์รับจ้างให้บริการ บนถนนคอนกรีต แต่ไม่มีรถยนต์มีเพียงรถอีแต๊กขนส่ง ที่นี่ไม่ได้มีจุดท่องเที่ยวหลากหลายจนเหลือเฟือ  แต่มีพองามให้เราจดจ่อดื่มด่ำ เปรียบความงามดั่งสาววัยสดใสเดียงสาบริสุทธิ์หน้าตาดีแบบโดยธรรมชาติ ปราศจากเครื่องสำอางค์แต่งแต้ม
ภาพและบทความโดย xsci
ท่าเรือเกาะพยาม สปีดโบ๊ทเริ่มเดินทางเที่ยวแรก 9.50 น. เที่ยวสุดท้าย 1.00 น. ขากลับเที่ยวสุดท้ายหมด 17.00 น.

ท่าเรือที่ยังติดโคลนเกยตื้นเพราะน้ำลง ถ้าน้ำลงแบบนี้ประมาณ 11.30 น. ถึง 12.00 น. น้ำถึงมากพอที่เรือจะออกได้


วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง จ.ระนอง, Porn Rung Hot Spring Ranong Thailand

          หลาย ๆ ครั้งที่สื่อต่าง ๆ ผ่านตาเรื่องการอาบน้ําแร่ออนเซ็นของญี่ปุ่น มันจุดประกายความคิดความต้องการอยากสัมผัส ดื่มด่ำ กับการเปลือยกายนอนแช่น้ำแร่ มีน้ำแร่ไหลผ่านท่อไม้ไผ่โชยอ่อนไปด้วยไอน้ำจากน้ำร้อนที่แทรกตัวมาใต้ผืนดินลึกหลายกิโลเมตร แต่ทว่านั่นเป็นสิ่งที่ไกลเกินไปสำหรับการพักผ่อนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีเวลาไม่มากนัก แต่เราอาจไม่รู้ว่าเมืองไทยก็มีบ่อน้ำแร่ร้อนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและดีที่สุดต่อการนอนแช่แห่งหนึ่งของโลกเพราะน้ำใสสะอาด ไม่มีกลิ่นกำมะถัน ก๊าซไข่เน่า หรือคราบขาวของแคลไซต์ มีส่วนผสมของแร่ธาตุในระดับที่พอดี บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง 13 ตาน้ำร้อนจากใต้พิภพ จ.ระนอง ห่างจากตัวเมืองระนองเพียง 10 กิโลเมตร ที่นี่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการอาบน้ำแร่ได้เป็นอย่างดี มาแล้วมีเมนูไข่ต้มน้ำแร่เป็นของแถมมีรสชาติพิเศษจากการต้มน้ำแร่นาน 18 ชั่วโมงรับความร้อนตรง ๆ จากตาน้ำร้อน  นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบ้านพักริมธารน้ำแร่ สำหรับผู้ที่อยากดื่มด่ำในธรรมชาติแช่น้ำแร่จนปริ่มเปรมเต็มที่ก็สามารถใช้บริการได้แนะนำว่าควรจองล่วงหน้าเพราะเป็นที่นิยมไม่น้อยเลยทีเดียว
          ระนองเมืองฝนแปดแดดสี่เมืองเล็กๆ ที่ไม่ธรรมดา เส้นทางเพชรเกษม ตัดผ่านเทือกเขาสลับซับซ้อน เดินทางผ่านถนนเส้นนี้ทำให้นึกถึงเส้นทางในแถบภาคเหนือในด้านโค้งและภูเขา ระนองเป็นทั้งเมืองหน้าด่านมีเขตติดต่อกับพม่า คอคอดกระแผ่นดินที่แคบสุดระหว่างสองทะเลของด้ามขวาน ติดทะเลอันดามันที่เลื่องชื่อทะเลน้ำใสหาดสวย อุดมไปด้วยสินแร่ดีบุกจนเป็นที่มาของชื่อเมือง "แร่นอง" ปัจจุบันเพี้ยนมาเป็น "ระนอง"-เดินทางจากกรุงเทพก็สบาย ๆ ด้วยรถทัวร์วิ่งตรงรวดเดียวถึงระนองด้วย สมบัติทัวร์มิตรแท้เพื่อนเดินทาง รถปรับอากาศพิเศษ(พ) กรุงเทพฯ - ระนอง หรือเรียกว่า Super Class เรียกได้ว่ามาระนองได้ครบทุกรสชาติไม่ว่าจะเป็นเกาะพยามงามตา ทะเล ภูเขา น้ำตก ทุ่งภูเขาหญ้า สปาน้ำแร่ร้อน อากาศบริสุทธิ์จากป่าดิบชื้นที่ไม่เคยร่วงโรยผลัดใบแห่งเหี่ยว ผู้คนน้ำใจงาม รวมทั้งได้ดื่มด่ำฉ่ำใจกับอาหารทะเลสด ๆ จากทะเลอันดามันได้อย่างเต็มรสชาติ

แผนที่บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง จ.ระนอง
http://goo.gl/maps/5Ai6b


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น  

ลักษณะบ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง
          ประกอบไปด้วยบ่อน้ำร้อนธรรมชาติและบ่อปูนซีเมนต์ บ่อน้ำร้อนธรรมชาติโดยทั่วไปมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 1 เมตร ประมาณ 5 บ่อและสายน้ำแร่ร้อนที่น้ำร้อนจะไหลซึมออกมาจากผิวดิน และกระจายเป็นแอ่งมีตาน้ำมากถึง 13 ตาน้ำ ที่ซึมขึ้นมาตามารอยแตกของหิน ทั้งจากหินแกรนิต หินภูเขาไฟจำพวกดิไซด์ และหินทัฟฟ์ และสายแร่ควอรตซ์ อุณหภูมิน้ำร้อน โดยเฉลี่ยประมาณ 35-40 องศาเซลเซียส
          Compose hot nature spring, and cement pond, hot nature pring generally have alittle diameter size more 1 the mate, atout 5 a pond, and mineral hot stream that the hot water will flow to seep come out from the underlying ground, and pread a basin, there are many springs arrive at 13 the spring, at seep upward trail broken of a stone, both of from granite stone, vocano kind young bamboo fish trap stone, and a stone, and late litter mineral, hot water temperature on the average about 35-40 the degree celsius.

ข้อห้ามในการแช่น้ำร้อน Hot Spring Caution
          1. ห้ามใช้สบู่หรือแชมพูในบ่อแช่น้ำร้อน
              Don't use the soap and shampoo in the pool.
          2. ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มมารับประทานในบ่อแช่น้ำร้อน
              Don't take the food and beverage in the pool.
         3. ห้ามดำน้ำโดยเด็ดขาด (อาจทำให้เป็นลมได้)
             Don't diving
         4. ห้ามเด็ก และผู้สูงอายุแช่น้ำร้อนโดยปราศจากผู้ปกครอง หรือเจ้าหน้าที่คอยดูแล
             The child or the old Don't use the pool alone.
         5. ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในบริเวณพื้นที่ให้บริการน้ำแร่ร้อน
             Don't bring pet in hot spring area.

ข้อควรปฏิบัติในการเข้าไปใช้บริการ อาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อน
          -สวมกางเกงขาสั้น-เสื้อยืด
          -ให้ชำระร่างกาย-อาบน้ำจืด ฝักบัว ก่อนลงในบ่อ
          -ห้ามใส่ผ้าถุงหรือกระโจมอกลงในบ่อ
          -ห้ามใส่กางเกงขายาวลงในบ่อ
          -ห้ามสูบบุหรี่ขณะลงบ่อ
          -ห้ามถลกหรือพับขากางเกงลงแช่ในบ่อแช่ทั้งตัว
          -ห้ามนำอาหาร-เครื่องดื่มรับประทานบริเวณบ่อแช่

โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง
จองบ้านพักล่วงหน้าโทร: 077-862103, 089-2889153

ภาพและบทความโดย xsci







วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ร้อนใจมากค่ะ เรื่องท้อง และใครคือพ่อของเด็ก

จงยอมรับในบางแง่มุมของสังคมว่าเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ภายใต้วัฒนธรรม สังคม ศีลธรรมและการปลูกฝังคุณค่าว่าดีงาม และจงยอมรับว่าผู้หญิงกำลังทำสิ่งเหล่านี้ แบบเดียวกันนี้อยู่ และนี่เป็นสิ่งที่เราไม่ได้จะเหยียดหยามดูถูก หรือโจมตี แต่มันเกิดขึ้นจริง แต่ต้องถามว่าวันนี้เรายังอยู่ในครรลองที่ดีงามเหล่านั้นหรือไม่ ทุกวันนี้สตรีเรียกร้องสิทธิและได้สิทธิ์นั้นได้มากกว่าที่ควรได้ หลายครั้งสังคมประณามบุรุษอย่าง แด๊กบิ๊กแอส ฟิมล์รัฐภูมิ จนแทบไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด เพียงแค่เชื่อข่าวจากสื่อโดยไม่ได้มีการวิเคราะห์.... นี่เป็นสิ่งที่บอกคุณว่า อย่ามองโลกในด้านเดียว???? จงนั่งลงเถิดแล้วตั้งใจอ่านกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/31613886