วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2557

วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา-wat phrasisanphet

          วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดสำคัญที่สุดของราชสำนักอยุธยา มีฐานะเป็นวัดส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ในเขตพระราชฐาน จึงไม่มีพระสงฆ์จำอยู่ในวัด พื้นที่ตั้งของวัด เดิมเป็นที่ตั้งของพระราชมณเฑียรอันเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ พระบรมไตรโลกนาถได้ทรงยกพื้นที่นี้ให้เป็นเขตพุทธาวาส เมื่อปี พ.ศ.1991 เรียกว่า วัดพระศรีสรรเพชญ์ แล้วย้ายบรรดาพระราชมณเฑียรเลยขึ้นไปทางทิศเหนือ ต่อจากเขตวัดไปจนจรดริมแม่น้ำลพบุรีในปัจจุบัน วัดพระศรีสรรเพชญ์ใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เช่น พระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา (ปีละ 2 ครั้ง) ตลอดจนใช้เป็นที่เก็บพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์อยุธยาเกือบทุกพระองค์ เป็นต้น
          บริเวณใจกลางสุด มีพระเจดีย์ขนาดใหญ่ 3 องค์ สลับระหว่างกลางแต่ละองค์ด้วยมณฑปอีก 3 หลัง ปลายทิศตะวันตกของพระเจดีย์องค์สุดท้ายมีฐานของพระวิหารจัตุรมุข โดยตรงกลางมีเจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิ ส่วนมุขทั้งสี่ด้านเชื่อว่าเคยมีพระพุทธรูปนั่ง ยืน นอน และเดิน ด้านทิศตะวันออกต่อกับเจดีย์องค์แรกเป็นวิหารสำคัญที่สุด เพราะบริเวณด้านท้าย ซึ่งเรียกว่า ท้ายจระนำ ใช้เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์องค์ต่างๆ ในวิหารเคยมีพระพุทธรูปหุ้มทองคำหนัก 286 ชั่ง (หรือหนักเท่ากับ 12,880 บาท) ประทับยืนสูงถึง 8 วา มีพระนามว่า พระศรีสรรเพชญ์ ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญที่สุดในสมัยอยุธยา
          พระวิหารหลวงหรือวิหารพระศรีสรรเพชญ์นี้ถูกขนาบด้วยวิหารพระโลกนาถอยู่ด้านทิศเหนือ ส่วนทิศใต้เป็นวิหารพระป่าเลไลยก์ ถัดต่อทางด้านหน้าเป็นพระวิหาร(ทิศเหนือ) และพระอุโบสถ(ทิศใต้) อาคารทั้งหมดนี้ถูกล้อมรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าด้วยพระเจดีย์สลับกับวิหารแกลบอย่างได้สัดส่วนยิ่ง
          วัดนี้ถูกเผาไปเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาให้พม่า ครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2310 พม่าได้ปล้นสะดมทรัพย์จำนวนมาก ทั้งที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาและที่ได้มาจากการที่สยามยึดมาจากพระนครธม ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ พม่าได้เอาไฟสำรอกทองหุ้มองค์พระศรีสรรเพชญ์ คงเหลือแต่แกนในพระซึ่งทำด้วยสำริด เมื่อคราวตั้งกรุงเทพฯ นั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้อัญเชิญแกนในพระศรีสรรเพชญ์ลงไปด้วย ทรงสร้างพระเจดีย์หุ้มแกนพระองค์นี้เอาไว้ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) แล้วถวายพระนามตามท่านว่า เจดีย์พระศรีสรรเพชญ์ดาญาณ
           ภาพเจดีย์สามองค์เรียงซ้อนกันเช่นภาพนี้ กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงอยุธยาได้อย่างชัดเจน และเป็นที่แพร่หลายเป็นเอกลักษณ์ของเมือง ปัจจุบันวัดพระศรีสรรเพชญมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนกล่าวได้ว่าไม่มีคณะทัวร์ไหนที่จะไม่ขาดโปรแกรมการมาชมวัดพระศรีสรรเพชญเลย เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นอดีตพระอารามในพระราชวังกรุงศรีอยุธยา และเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการได้มาเที่ยวอยุธยานักท่องเที่ยวจึงนิยมการถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก
          เจดีย์ทั้งสามองค์นี้...ชาวอยุธยามักกล่าวติดปากว่า "เจดีย์สามพี่น้อง" ด้วยความไม่เข้าใจในประวัติศาสตร์ อันที่จริงแล้ว เจดีย์ทั้งสามมีฐานะเปรียบดังเครือญาติได้ดังนี้ เจดีย์องค์แรก(ด้านขวา)คือเจดีย์พระบิดา สร้างเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เจดีย์องค์กลาง คือเจดีย์โอรสองค์ใหญ่ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 และองค์สุดท้ายด้านซ้าย คือเจดีย์โอรสองค์รอง สมเด็จพระรามาธิปดีที่ 2 ถ้าจะเปรียบดังเครื่องญาติแล้วก็คือ เจดีย์ พ่อ ลูกคนโต ลูกคนเล็ก จึงจะถูกต้อง

เนื้อหาจาก :  ayutthayastudies.aru.ac.th/content/view/202/116/




















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น