วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

bloger 100 million เขียนบล็อกรวยร้อยล้าน

..........การพยายามอธิบายเรื่องราวให้ผู้อื่นได้รับรู้นั้นมีอยู่หลายวิธี แต่วิธีที่เข้าถึงง่ายที่สุดเบสิคที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเขียน การพูด ในปัจจุบันผู้อ่านสามารถเข้าถึงได้แสนง่ายดาย โดยการเผยแพร่ลง Blog แต่มีเพียงไม่กี่คนที่จะเก่งและเฮงได้จนมีเงินนับร้อยล้านไหลเข้ามา และอีกหลายคนได้เป็นนักเขียนตัวจริง

หว่านหวาน หรือ หู เจีย เหวย บล็อกเกอร์สาวสวยชาวใต้หวัน โดยปกติเธอจะเป็นคนชอบบันทึกชีวิคประจำวันเหมือนคนทั่วไป แต่ด้วยการที่เป็นคนไม่ชอบเขียนอะไรเป็นเรื่องราวยาว ๆ เลยหาทางอธิบายเรื่องราวเป็นรูปภาพจากรากฐานที่ตนนั้นชอบอ่านการ์ตูนเป็นทุนอยู่ก่อนแล้ว ก็เลยเลือกที่จะถ่ายทอดเรื่องราวเป็นตัวละครการ์ตูนที่เรียบง่ายเข้าใจง่่าย ในชื่อเดียวกับเธอเอง

สาวน้อยร้อยล้าน
ภาพประกอบจาก http://www.ecommerce-magazine.com/

วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

easy panorama ภูชี้ฟ้า





AEC Education ระบบการศึกษาใน aec

1. การศึกษาของสิงคโปร์

         ระบบการศึกษาของสิงคโปร์แบ่งออกเป็นระดับประถม 6 ปี ระดับมัธยมศึกษา 4 ปี ซึ่งรวมแล้วเป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างน้อย 10 ปี แต่ผู้ที่จะเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยจะต้องศึกษาขั้นเตรียมมหาวิทยาลัย อีก 2 ปี

         การศึกษาภาคบังคับของสิงคโปร์จะต้องเรียนรู้ 2 ภาษาควบคู่กันไป ได้แก่ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และเลือกเรียนภาษาแม่ (Mother Tongue) อีก 1 ภาษา คือ จีน (แมนดาริน) มาเลย์ หรือทมิฬ (อินเดีย)

         รัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก โดยถือว่าประชาชนเป็นทรัพยากรที่สำคัญ และมีค่าที่สุดของประเทศ ในการนี้ รัฐบาลได้ให้การอุดหนุนด้านการศึกษาจนเสมือนกับเป็นการศึกษาแบบให้เปล่า โรงเรียนในระดับประถม และมัธยมล้วนเป็นโรงเรียนของรัฐบาลหรือกึ่งรัฐบาล สถานศึกษาของเอกชนในสิงคโปร์ มีเฉพาะในระดับอนุบาล และโรงเรียนนานาชาติเท่านั้น

         มหาวิทยาลัยในสิงคโปร์มี 3 แห่ง คือ :-

        1. National University of Singapore (NUS)

        2. Nanyang Technological University

        3. Singapore Management University (SMU)

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

พรบ. นิรโทษกรรม ฉบับ วรชัย เหมะ

            มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการ เมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. ..."

            มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

            มาตรา 3 ให้บรรดาการกระทำใด ๆ ของ บุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกทางการเมือง หรือบุคคลซึ่งไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมทางการเมือง แต่กระทำการนั้นมีมูลเหตุเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการ เมือง โดยการกล่าวด้วยวาจาหรือโฆษณาด้วยวิธีการใด เพื่อเรียกร้องหรือให้มีการต่อต้านรัฐ การป้องกันตน การต่อสู้ขัดขืนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือการชุมนุม การประท้วงหรือการแสดงออกด้วยวิธีการใด ๆ อันอาจเป็นการกระทบต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นเหตุการณ์สืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ถึงวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ไม่เป็นความผิดต่อไปและให้ผู้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดและ ความรับผิดโดยสิ้นเชิง
            การกระทำในวรรคหนึ่ง ไม่รวมถึงการกระทำใด ๆ ของบรรดาผู้ซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจ หรือสั่งการให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในห้วงระยะเวลาดังกล่าว
        
           มาตรา 4 เมื่อพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับแล้ว  ถ้า ผู้กระทำการตามมาตรา 3 วรรคหนึ่งยังมิได้ถูกฟ้องต่อศาลหรืออยู่ในระหว่างการสอบสวน ให้พนักงานสอบสวนผู้ซึ่งมีอำนาจสอบสวน หรือพนักงานอัยการระงับการสอบสวนหรือการฟ้องร้อง หากถูกฟ้องต่อศาลแล้วให้พนักงานอัยการ หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องระงับการฟ้องหรือให้ถอนฟ้อง ถ้าผู้นั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีไม่ว่าจำเลยร้องขอหรือศาลเห็นเอง ให้ศาลพิพากษายกฟ้องหรือมีคำสั่งจำหน่ายคดี ในกรณีที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษบุคคลใดก่อนวันที่พระราชบัญญัติ นี้มีผลใช้บังคับห้ถือว่าบุคคลนั้นไม่เคยต้องคำพิพากษา ว่าได้กระทำความผิด ถ้าผู้นั้นอยู่ระหว่างการรับโทษให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลงและปล่อยตัวผู้นั้น
         
          มาตรา 5 การนิรโทษกรรมตามพระราชบัญบัตินี้ ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้ได้รับนิรโทษกรรมในอันที่จะเรียกร้องสิทธิ หรือประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น

            มาตรา 6 การดำเนินการใดๆ ตามพระราชบัญญัตินี้ ไม่เป็นการตัดสิทธิของบุคคลซึ่งไม่ใช่องค์กรหรือหน่วยงานของรัฐในการเรียก ร้องค่าเสียหายในทางแพ่ง จากการกระทำของบุคคลใดซึ่งพ้นจากความรับผิดตามพระราชบัญญัตินี้ และทำให้ตนต้องได้รับความเสียหาย

            มาตรา 7 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

            ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

            นายกรัฐมนตรี

credit : vrzaa.net/node/541#sthash.kn2tK4zS.dpuf

เส้นทางเชื่อมอาเซียน R3A

        Update  เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11/12/13 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานร่วมในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) ร่วมกับ ฯพณฯ บุนยัง วอละจิต รองประธานประเทศ สปป. ลาว โดยมีท่านนายกยิ่งลักษณ์ ผม และ รมต. อีกหลายท่านร่วมรับเสด็จ  ข่าวจาก FB : ສະເໜ່ເມືອງລາວ The Glory of Laos  ชัชชาติ สุทธิพันธ์ เขียน


          การรวมตัวของอาเซียนมีวัตถุประสงค์เพื่อการค้าการลงทุนระหว่างกันเป็นหลักเพราะฉะนั้นการขนส่งเพื่อกระจายสินค้ารวมไปจนถึงการดำเนินธุรกิจ จึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ การขนส่งทางบกด้วยรถยนต์จึงเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้สูงมากเพราะเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วและขั้นตอนการขนส่งเรียบง่ายที่สุดซึ่งนั่นก็หมายถึงต้นทุนที่ต่ำ เพียงแค่เปิดพรมแดนให้เชื่อมต่อกันเท่านั้นเองซึ่งนั่นก็คือเส้นทาง R3A ซึ่งเชื่อมต่อจากจีน สิบสองปันนา เข้าสู่ลาว เข้าสู่ไทยที่อำเภอเชียงของจังหวัดเชียงราย สภาพถนนเส้นนี้นับว่ามีสภาพดีพอสมควร จึงถูกคาดหมายให้เป็นถนนสายสำคัญเชื่อมระหว่างไทยและอาเซียนสำหรับประเทศที่มีแผนดินติดต่อกันการขนส่งทางบกจึงเป็นวิธีการที่น่าสนใจมากที่สุด
          จุดเชื่อมต่อข้ามพรมแดนไทยลาวแห่งที่ 4 ก็คือสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชียงของ-ห้วยทราย ซึ่งเป็นความร่วมมือของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ระหว่างไทย-จีน คนละ 50% โดยว่าจ้าง กลุ่มซีอาร์ 5-เคที จอยท์เวนเจอร์ ภายใต้งบประมาณ 1,486.5 ล้านบาท ซึ่ง ณ ปัจจุบันคืบหน้าจนใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งผมมีภาพถ่ายสะพานแห่งนี้ ถ่ายในวันที่วันที่ 12 สิงหาคม 2556 มา Update ให้ดูกัน


ดู R3 Road,ถนนสาย R3 ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า


ชมภาพการเริ่มก่อสร้างก่อนจะถึงวันนี้กันซักนิด

ภาพประกอบ : เส้นสีเขียวคือตัวแทนตำแหน่งสะพาน เส้นโค้ง ๆ รูปเกือกม้าที่ลูกศรเขียวซ้ายมือ คือจุดกลับรถใต้สะพานในปัจจุบัน ภาพจาก Google Earth

ภาพประกอบ : ระหว่างการวางตอหม้อสะพานเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ภาพจาก Google Earth


ภาพประกอบ : สะพานเชียงของ-ห้วยทราย ความร่วมมือไทย-จีน เพื่อรับ AEC

วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ถนนสุดอันตรายที่สุดของโลก

ถ้าหากในวันหนึ่งคุณได้ขับรถไปยังสถานที่เหล่านี้คงจะสัมผัสได้ถึงความน่า กลัวผสานกับความสวยงามอยู่ในนั้นเส้นทางที่คดโค้งจนเกินจินตนาการ ซึ่งทุกสัมผัสขณะนั้นเสี่ยงเหมือนได้เดินทางอยู่บนเส้นด้าย...ที่ความเป็น ความตายจะเกิดขึ้นได้...ทุกวินาที

เส้นทางแรก North Yungas Road, Bolivia โบลิเวีย
เส้น ทางนี้เป็นที่รู้จักกันในนามเส้นทางแห่งความตาย ถนนมีเลนเดียวมักจะมีรถบรรทุกวิ่งผ่าน สภาวะอากาศในบางครั้ง อาจมีหมอกหนา มีฝนตก ทำให้เส้นทางลื่นเสี่ยงอันตรายที่จะตกเหวที่ลึกมาก...ซึ่งก็เกิดขึ้นบ่อย




วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Benzene ไอระเหยก่อมะเร็ง ผลพวงน้ำมันรั่วที่เกาะเสม็ด


          จากเหตการณ์น้ำมันดิบรั่วในทะเลจนส่งผลให้อ่าวพร้าวเกาะเสม็ดเป็นพื้นที่ ๆ ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันดิบที่ลอยมาติดชายหาดและทะเลแถบนั้นจนเรียกได้ว่าเป็นทะเลสีดำ ซึ่งหารู้ไม่ว่านั่นคือสารพัดสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหนในพื้นที่นั่นล้วนได้รับสารเคมีกันเต็ม ๆ สัตว์ที่เป็นอาหารมนุษย์ก็จะได้รับสารเคมีส่วนที่ยังไม่ตายก็ตกถึงจานอาหารใครซักคน หรือส่วนของการแก้ปัญหาคราบน้ำมันโดยแรงงานคนนั้นจะเห็นได้ว่าบริษัทที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานเลย โดยสังเกตุจากชุดป้องกันและหน้ากากกันสารเคมีที่ได้มาตรฐาน โดยเมื่อต้องลุยอยู่กับสารเคมีที่พร้อมจะเข้าสู่ร่างกาย ทั่งไอปรอท ไอเบนซิน ไปปรอทซึมเข้าสู่ผิวหนังไปสะสมอยู่ที่ไขกระดูกส่งผลให้เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ ไอเบนซินก็เช่นเดียวกัน ซึ่งมาดูรายละเอียดของเบนซินกัน ดังนี้
Benzene
นพ.วิวัฒน์ เอกบูรณะวัฒน์ (31 พฤษภาคม 2555)
ชื่อ เบนซีน (Benzene) ||||| ชื่ออื่น Phenyl hydride, Cyclohexatriene, 1,3,5-Cyclohexatriene, Cyclohexa-1,3,5-triene, Benzohexatriene, Benzol, Pyrobenzole, Coal naphtha
สูตรโมเลกุล C6H6 ||||| น้ำหนักโมเลกุล 78.1 ||||| CAS Number 71-43-2 ||||| UN Number 1114
ลักษณะทางกายภาพ ของเหลว ไม่มีสี มีกลิ่นหอมอโรมาติก ระเหยเป็นไอได้ง่าย
คำอธิบาย เบนซีน (Benzene) เป็นตัวทำละลายกลุ่มอโรมาติกชนิดหนึ่ง ลักษณะใสไม่มีสี ที่ความเข้มข้นต่ำๆ จะมีกลิ่นหอม ในอดีตนิยมใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมหลายชนิด สารเบนซีนมีคุณสมบัติกดไขกระดูก และก่อมะเร็งเม็ดเลือดขาวในมนุษย์ ปัจจุบันจึงมีการใช้น้อยลง แต่ยังสามารถพบได้ในอุตสาหกรรมบางประเภท และการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม
ค่ามาตรฐานในสถานที่ทำงาน ACGIH TLV – TWA 0.5 ppm, STEL 2.5 ppm ||||| NIOSH REL – Ca, TWA 0.1 ppm, STEL 1 ppm ||||| OSHA PEL – TWA 1 ppm, STEL 5 ppm ||||| IDLH 500 ppm ||||| กฎหมายแรงงานไทย TWA 10 ppm, Ceiling 25 ppm, Maximum 50 ppm in 10 minutes
ค่ามาตรฐานในสิ่งแวดล้อม EPA NAAQS – N/A ||||| กฎหมายสิ่งแวดล้อมไทย – มาตรฐานค่าสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศทั่วไปในเวลา 1 ปี ต้องไม่เกิน 1.7 ug/m3
ค่ามาตรฐานในร่างกาย ACGIH BEI – S-Phenylmercapturic acid ในปัสสาวะหลังเลิกงาน 25 ug/g Cr, t,t-Muconic acid ในปัสสาวะหลังเลิกงาน 500 ug/g Cr
คุณสมบัติก่อมะเร็ง IARC Group 1 ||||| ACGIH A1 Carcinogenicity
แหล่งที่พบในธรรมชาติ

วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แนะนำคลังภาพ 360

http://www.360cities.net/

ภาพตัวอย่าง มุมมองแบบ pano มองรอบด้านจากเมืองและสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก


วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คู่มือการพิมพ์หนังสือราชการ โดยใช้โปรแกรม Microsoft word


ขั้นตอนการปฏิบัติ
1.  หลังจากติดตั้งโปรแกรม Microsoft Word และจัดเตรียมโครงร่างงานที่จะทำการบันทึก
2.  เข้าโปรแกรม Microsoft Word โดยคลิกที่ปุ่ม Start เลือก Programs จากนั้นเลื่อนเมาส์ไปที่ Microsoft Office แล้วคลิกที่ Microsoft Word
             -  จากนั้นจะปรากฏหน้าจอของ Microsoft Word  ขึ้นมา  ดังรูป
3. .  ตั้งกั้นหน้าและก้นหลังของเอกสาร
3.1 คลิกที่ปุ่มแฟ้ม เลือก ตั้งค่าหน้ากระดาษ
- ตั้งค่าหน้ากระดาษด้านบน  1.02  เซนติเมตร
-  ตั้งค่าหน้ากระดาษด้านล่าง  1  เซนติเมตร
-  ตั้งค่าหน้ากระดาษด้านซ้าย  3.17  เซนติเมตร
-  ตั้งค่าหน้ากระดาษด้านขวา  1.5  เซนติเมตร
แล้วกดปุ่ม ตกลง

จีนและรัสเซียร่วมซ้อมรบทางทะเล 2556

           น่านน้ำทางทะเลมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างสูงต่อการรบจนมีคำกล่าวที่ว่า "ผู้ที่ครองน่านทะเลได้เท่ากับครองโลก" ซึ่งในความเป็นจริงนั้น อเมริกาได้ทำให้โลกได้ประจักษ์แล้วโดยมีกองเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนกดดันให้ชาติที่เีรียกได้ว่าเป็นมหาอำนาจในยุคปัจจุบันเช่นเดียวกันอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ อย่างเช่นจีนก็ดิ้นพัฒนากองเรือให้ก้าวหน้าเพื่อถ่วงดุลอำนาจ เราจะได้ยินข่าวว่าจีนแอบซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินเก่าของรัสเซียไปซ่อมและใช้งานได้แล้วในปัจจุบัน ส่วนรัสเซียเองก็เป็นมหาอำนาจเก่าที่มีกองกำลังทางทหารและเทคโนโลยีที่ก้าวทันอเมริกาตลอดแก้ทางกันตลอด เป็นหมีที่แสดงตัวว่าหลับไหล ภายใต้การพัฒนาทางทหารอย่างไม่หยุดยั้งเช่นกัน  
          จีนและรัสเซียร่วมซ้อมรบทางทะเล ที่ Peter the Great Bay มีทหารร่วมฝึกซ้อมกลยุทธทางเรือ กว่า 4,000 นาย

กองเรือกำลังประสานการซักซ้อมเพื่อพร้อมรบ

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

หนังสือมานี pdf download


Credit เว็บต้นทาง  http://pouloaun.blogspot.com/2009/08/blog-post.html


ไกรราช มานะดำรงธรรม (สำรองบทความจาก pantip)

ความคิดเห็นที่ 1

***

    ทุกวันนี้คดีของแกของแกยังเคลียร์กันไม่หมดเลยครับ  เพราะข้อหาที่เกี่ยวกับอาวุธสงครามนั้นโทษแรงมากครับและไม่ใช่แค่คดี2คดี เสียด้วย  โดยถ้าพูดกันตามความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ  ผมว่าถ้าคนอย่างคุณ "ไกรราช" ไปอยู่ประเทศมะริกันหรือแถบยุโรปคงจะเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานกว่าใน บ้านเราแน่ๆ  เพราะถ้าใครเกิดทันหรือศึกษาข้อมูลในช่วงนั้นจะทราบกันดีครับว่าในช่วงต้น ยุค 1980 นั้นบริษัท "รุ่งไพศาลอุตสาหกรรม" ของเขาโด่งดังในแวดวงการทหารและตำรวจมาก  อีกทั้งวงการพัฒนาอาวุธของบ้านเราก็ยังมีสีสันมากมายทีเดียว (สมัยนี้ไม่มีแล้ว!)

    เรียกได้ว่าเครื่องยิงจรวด เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนเล็กยาว ปืนสั้น ปืนดัดแปลง อุปกรณ์เสริม ฯลฯ ที่บริษัทแกทำตัวต้นแบบมาให้กองทัพทดลองใช้ดูนั้น  มีคุณภาพและมาตรฐานอยู่ในระดับต้นๆไม่ขายขี้หน้าชาวบ้านชาวช่องแน่นอนเลยที เดียวและบรรดานายทหารจำนวนมากก็ให้ความสนใจเป็นอย่างดี  ต่างกับในปัจจุบันที่บ้านเราแทบจะหาคนสร้างอาวุธเก่งๆแบบนั้นไม่มีแล้ว  ทุกวันนี้กองทัพดีแต่ซื้ออาวุธปืนของพวกฝรั่งมาใช้หรือเอาลิขสิทธิ์มา ประกอบเองตามอย่างฝรั่งเขา  ที่ทำเองก็มีบ้างแต่มีจำนวนน้อยและยังไม่น่าสนใจเท่าที่ควร

ป.ล. ผมเชื่อขนมยายแม้วกินเ้ลยว่าถ้าตอนนั้นแกไม่ติดคุกและยังทำงานในแวดวง อุตสาหกรรมอาวุธต่อไป  เผลอๆทุกวันนี้ทหารราบบ้านเราอาจจะใช้ปืนเล็กยาวประจำกายที่ผลิตขึ้นโดย ฝีมือคนไทยไปนานแล้วก็ได้  (เดี๋ยวนี้ก็ยังต้องสั่งซื้อจากพวกฝรั่งมะริกัน ยุโรป หรือชาวยิวอยู่ร่ำไป)

(May the Spoil be with you)
ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน

จากคุณ : เจไดหนุ่ม
---------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 2

จ.แพร่ เกือบได้เป็นฐานการผลิตปืน sig แห่งแรกของเอเชียสุดท้าย............................หายเงียบไปเลย

"ซิกซาวเออร์"ลงเสาเอก รง.ปืนแห่งแรกในเอเชียที่แพร่

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2547 19:07 น.


แพร่ - กลาโหมไฟเขียวผุดโรงงานทำอาวุธใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ที่จ.แพร่ ประเดิมผลิตปืนพก “ซิกซาวเออร์” ให้มหาดไทย-ส่งขายเยอรมัน หวังเป็นฐานการผลิตแหล่งใหญ่ของโลก



ปืนซิกซาวเออร์

วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2547) พลเอกชัยศึก เกตุทัศน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน ตั้งเสาเอกอาคารสนามยิงปืนและสถานที่ทดสอบอาวุธปืน “ซิกซาวเออร์” ประเทศเยอรมันนี โดยมีนายศรีพรหม หอมยก รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายสุวิทย์ วงศ์วรกุล กรรมการหอการค้าไทย นายเอกชัย วงศ์วรกุล ประธานหอการค้าจังหวัดแพร่ นายสุขสวัสดิ์ บำรุงวงศ์ อุตสากรรมจังหวัดแพร่เข้าร่วม

พลเอกชัยศึก เกตุทัศน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงกล่าวว่า กรณีโรงงานอาวุธปืนดังกล่าวจะเป็นยุทธภัณฑ์หลัก ที่กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งประเทศไทยต้องการอาวุธยุทโธปกรณ์มาใช้ในกิจการด้านความมั่นคงเป็นจำนวน มาก และยังส่งผลไปถึงการพัฒนาเศรษฐกิจ ให้มีการสร้างงานในพื้นที่มากขึ้น ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากประเทศผู้ผลิตเป็นอย่างดี

ในส่วนของการ ผลิตอาวุธสงคราม ประเทศไทยยังมีขีดจำกัดอยู่มาก ซึ่งปืนซิกซาวเออร์เป็นปืนพกที่ประเทศชั้นนำทั่วโลกนำไปใช้ในการต่อสู้กับ การก่อการร้าย และในอนาคตข้าราชการทุกกระทรวงก็สามารถมีอาวุธดังกล่าวไว้ใช้ประจำกายได้

ส่วน ในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยของโรงงานแห่งนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก จะต้องมีความปลอดภัยในเรื่องของสถานที่ และ ความปลอดภัยในยุทโธปกรณ์ ซึ่งทางกรมอุตสาหกรรมทหาร กระทรวงกลาโหม ตำรวจแห่งชาติ และผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ต้องมีการควบคุมอย่างใกล้ชิดภายใต้กฎกระทรวงของกระทรวงกลาโหมในการควบคุม ดูแลเป็นอย่างดี



ซิกซาวเออร์ รุ่น P228 ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก


พล เอกชัยศึก กล่าวต่ออีกว่า ในขั้นต้นจะดำเนินการในการนำชิ้นส่วนซิกซาวเออร์ จากเยอรมันเข้ามาประกอบและทดสอบในจังหวัดแพร่ก่อน และค่อยๆ เริ่มผลิตชิ้นส่วนตามลิขสิทธิ์ที่ได้รับอนุญาต ซึ่งบริษัทดังกล่าวยังมีข้อตกลงกับกระทรวงกลาโหมเปิดให้รับข้าราชการทหารที่ ออกจากราชการแล้วเข้าทำงาน อีกด้วยซึ่งในอนาคตประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตอาวุธแหล่งใหญ่ของโลกอย่างแน่ นอน

โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานอาวุธปืนซิกซาวเออร์จากประเทศเยอรมันนี เป็นโรงงานแห่งแรกในประเทศไทยและเป็นแห่งแรกในเอเชีย โดยปืนซิกซาวเออร์ถูกจัดระดับให้เป็นปืนที่มีความทันสมัยที่สุดของโลกทั้งใน ด้านความแม่นยำ ความคงทน รูปลักษณ์ รวมถึงระบบความปลอดภัยในการใช้งาน ซึ่งในขณะนี้ อาคารที่ก่อสร้างดังกล่าวจะใช้เป็นสถานที่วิจัยและพัฒนาปืนซิกซาวเออร์รุ่น ต่อไปโดยนำชิ้นส่วนเข้ามาประกอบและทดสอบประสิทธิภาพที่โรงงานในจังหวัดแพร่

สำหรับ เป้าหมายในอนาคต จะใช้โรงงานแห่งนี้เป็นฐานผลิตชิ้นส่วนปืนทุกรุ่นส่งไปยังประเทศเยอรมัน เพื่อประกอบจำหน่ายไปทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดรายได้เกิดการจ้างงานและภาษีอากรจะกระจายลงสู่จังหวัด แพร่เพิ่มขึ้น และโรงงานดังกล่าวยังสามารถผลิตอาวุธให้กับทางราชการโดยล็อดแรกจะนำไปใช้ใน กิจการของกระทรวงมหาดไทย

อนึ่ง โรงงานผลิตอาวุธปืนซิกซาวเออร์ แห่งนี้อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เจ เค ดีเฟนซ์ อินดัสเตรียน คอมปานี จำกัด บนพื้นที่ 70 ไร่ ติดกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ ถนนแม่หล่าย – ร่องเข็ม ต.น้ำชำ อ.เมือง จ.แพร่

จากคุณ : แบนเกรียน
---------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 16

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=82644.0

เจอลิงค์ นี้ ผมว่าเค้าไม่ได้คิดปืนขึ้นมาใหม่ครับ แค่เอาชิ้นโน้นมาใส่ปืนนี้ให้หน้าตามันแปลกไปเท่านั้น เครื่องยิงจรวดก็ดูไม่ได้ทำเองเอาของที่ซื้อมามาโชว์

จากคุณ : OSK29560

---------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 17

ลุงไกรราช เท่าทีรู้คือแกเป็นผู้เชี่ยวชาณอาวุธดัดแปลงอาวุธเก่งมากและปืนที่แกทำเป็น น่าสนใจในยุคนั้นมากโดยคิดค้นและผลิตอาวุธให้กองทัพแกเคยโดนจับเพราะผลิตอ วปต่อมาได้รับอภัยโทษและก็ออกแบบอาวุธที่น่าสนใจเพราะทั้งทำเองและคุณภาพ เทียบได้กับของนอกและยังร่วมงานกับบริษัทผลิตปืนระดับโลกอย่างSigโดยได้ซื้อ มาผลิตโดยตั้งโรงงานทีจังหวัดแพร่และได้รับการสั่งจองอย่างมากมายสุดทางแกก็ โดนพิษการเมืองเล่นงานและยังโดนจับในข้อหาผลิตอาวุธสงครามและงานsigปัจจุบัน เหลือแต่เสาถ้าแกไม่ติดคุกปัจจุบันเราคงผลิตอาวุธใช้เองไปแล้ว ข้อมูลลองตามลิ้งที่ผมลงไว้เลยคับและลองหาข้อมูลในนั้นดูครับ ผมเคยเห็นแบบปืนที่แกทำไว้ทั้งเป็นพิมเขียวและที่ทำออกมาแล้วลองพิมชื่อ บริษัทใน google ดูคับเพราะผมเสียความสามารถของแกมากไม่งั้นป่านนี้เราคงเป็นประเทศที่ส่งออก ปืนไปแล้ว

จากคุณ : แบนเกรียน
---------------------------------------------------------------------------


ความคิดเห็นที่ 61

 หามาได้ประมาณนี้ครับ

- RPS.001เป็นปืนสร้างโดยบริษัทรุ่งไพศาลอุตสาหกรรมคุณไกรราช มานะดำรงธรรมครับ

เอาจุดเด่นของM16กับAK47มารวมกันประมาณปี2527หรือ2528ครับ

ที่มันไม่เกิดก็เพราะเหตุผลทางการเมือง
---------------------------------------------------------------------------


- RPS-001s

มันเป็นปืนที่กองทัพไทยพัฒนาเองโดย มีต้นแบบมาจาก M16A2 และ VZ58โดยรุ่งไพศาลอุตสาหกรรมเป็นผู้รับเหมา

หากใครเคยอ่านนิตยสาร สมรภูมิ -Battle Field weekly คงจะอาจจะจำ รุ่งไพศาลอุตสาหกรรม ได้ รวมทั้งโครงการ Sig RPS 226 ได้

เพราะหลายคนเสียค่าจองลมไป ตั้งแต่ 4000 ถึง 14000 บาท (คิดดูค่าเงินสมัย ปี พ.ศ. 2525-2526 ค่าดอลล่าร์ละ 20 บาท)

โดยได้ซื้อแบบของปืนซิก 226 มา ซึ่งตอนนั้นเข้าแข่งกับบาเรตต้า 92FS (XM9)

ปืน RPS-001 นี้ตัวปืนต้นแบบที่ผลิตในปีพ.ศ.2529 มีการทดสอบกับที่ค่ายปักธงชัย ผลการทดสอบเป็นที่น่าประทับใจมาก เค้าว่ากันมาว่า ยิงแม่นกว่า AK47นะครับ

จุดเด่นของปืนอยู่ที่ปลอกลดแสงที่มีคุณสมบัติข่วยลดแรงสะท้อน

ส่วนระบบกลไกจะคล้ายปืน เซกาเซ่ ( SKS) มากกว่าครับ เพียงแต่รูปร่างภายนอกคล้ายๆ AK

ดูที่ชุดลูกเลื่อนจะเรียกว่า ยกเอาของ SKS มาเลยก็ได้ครับ คล้ายกันมากๆ

แต่ตอนนมาช่วงนั้นปี 2527 - 2528 เจ้าของ ถูกจับกุมในข้อหาร้ายแรงเกี่ยวกับการดัดแปลงอาวุธสงคราม

แต่ก็ได้รับการอภัยโทษ เพื่อช่วยกองทัพออกแบบปรับปรุงอาวุธทหารราบหลายแบบ

รวมทั้งซื้อแผนแบบปืน SIG 226 และชิ้นส่วนมาผลิต ในชื่อ SIG RPS 226

เปิดรับจองจากข้าราชการทั่วประเทศ แต่ก็ไปไม่รอด ถูกดำเนินคดีอีกเพราะดันซุกชิ้นส่วนที่ผลิตปืน ที่ไม่เกี่ยวกับ 226 มาด้วย

ตอนนี้ยังดำเนินคดีอยู่ทุกวันนี้อยู่เลยครับ

http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=2a9aec35858fce65

http://bbs.playfps.com/

credit : topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2012/01/X11539768/X11539768.html