ความคดในข้องอในกระดูกของมนุษย์ก่อให้เกิดความทุจริตได้ทุกครั้งที่มีโอกาสของคนที่ไร้คุณธรรม องค์กรณ์ต่าง ๆ ทั้งทางการเมือง หรือในบริษัทเอกชนรูปแบบการโกงมีความแยบยลแนบเนียน หลาย ๆ องค์กรคงจะเจอเรื่องแบบนี้กันแต่อยู่ที่ว่าจะตามจับผิดได้หรือไม่
ครั้งหนึ่งมีโอกาสได้ทำงานในบริษัท A สมมุติว่าดำเนินกิจการด้านการรับจัดงานซึ่งส่วนใหญ่รับงานจากกระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ ซึ่งงานเหล่านั้นจะรับได้ก็ต้องผ่านการประมูลเสียก่อน บริษัท A การจดทะเบียนซ้อนไว้อีก 2 บริษัท คือบริษัท C และ D เพื่อไว้สำหรับการประมูลงานโดยการ ส่งแบบแปลนแข่งกันเอง ซึ่งคนในหน่วยงานรัฐก็รู้ดีและยอมให้บริษัท A ประมูลงาน เนื่องจากมีเงินยัดใต้โต๊ะบริษัทแบบนี้จะเป็นธุรกิจเถ้าแก่เพราะควักเงินจ่ายได้สะดวกไม่ต้องผ่านคณะกรรมการหรือฝ่ายอื่นใด ต่อมาเมื่อบริษัท A ได้โครงการมาดำเนินการแล้ว ก็บริหารจัดการโครงการนั้นไปแต่มีแผนกที่ใกล้ชิดกับเงินก็คือ การเงิน การบัญชี และกลุ่มคนติดตั้งหน้างาน 3 ฝ่ายนี้ได้มีโอกาสออกไปจัดซื้อสิ่งของมาใช้กับโครงการ และแล้วการโกงกันเองในการจัดซื้อก็เกิดขึ้น สมมุติของที่ไปซื้อก็คือต้นไม้พุ่มเตี้ย จัดซื้อในวงเงิน 1 ล้านบาทฝ่ายจัดซื้อ ได้ตกลงลับ ๆ กับร้านขายดอกไม้ว่าจะฝากต้นไม้ไว้ครึ่งหนึ่งกับร้านขาย และนำไปใช้แค่ครึ่งเดียว การดำเนินการเสร็จสิ้นผ่านพ้นไปดอกไม้ที่ฝากไว้ไม่มีการตรวจสอบจากผู้บริหาร
งานประมูลชิ้นต่อมาผ่านอีกเป็นงานแบบเดียวกันแต่ละปีจะมีการจัดวนลูปอย่างนั้นฝ่ายจัดซื้อเจ้าเดิมที่ฝากดอกไม้ไว้ได้รับทุนซื้อต้นไม้อีก 1 ล้านบาท แต่ไม่มีการจัดซื้อเพราะนำต้นไม่ที่ฝากไว้ในครั้งก่อนมาใช้เงิน 1 ล้านบาทเข้ากระเป๋าฝ่ายจัดซื้อเต็ม ๆ
งานต่อมาฝ่ายจัดซื้อเจ้าเดิมย่ามใจมากขึ้นเลยตั้งบริษัทเองขึ้นมาเพื่อเป็น supplier ซะเองเลย ในเมื่อเป็นพนักงานบริษัทอยุ่แล้วก็รู้การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในทุกระเบียดนิ้วทำให้ความร่ำรวยรวดเร็วผิดปรกติเกิดขึ้น จะเป็นว่าการโกงมีอยู่ทุกขั้นตอนที่มีโอกาส และเป็นการโกงที่ซ้อนกันไปทอด บริษัทฮั้วประมูลได้งานมา พนักงานโกงบริษัท ในสังคมไทยมีข่าวทุจริตให้ได้เห็นกันทุกวันโดยเฉพาะองค์กรภาครัฐเอง บางคนบอกว่ารัฐโกงไม่เป็นไรถ้าตนได้ประโยชน์ร่วม นี่เท่ากับส่งเสริมคนคนทุจริตหรือโจรใส่สูท ไม่เพียงเท่านั้นเด็กเยาวชนก็ถูกสังคมปลูกฝังล้างสมองด้วยข่าวสารที่กรอกใส่สมองทุก ๆ วัน รวมถึงพ่อแม่ที่เห็นดีเห็นงามกับการทุจริต การที่คนเราได้รับข้อมูลซ้ำ ๆ จากคนที่ตนเองเชื่อถือ นั่นก็คือการล้างสมอง มันคือหลักการเดียวกันกับที่เราปลูกฝังให้คนเชื่อในศาสนา
จะทำอย่างไรให้สังคมไทยหมดสิ้นคนขี้โกงเหล่านี้คงจะทำได้เพียงอย่างเดียวคือเน้นปลูกสร้างจิตสำนึกต่อสังคม ช่วยกันปลูกฝังกันตั้งแต่วัยเด็กซึ่งก็ต้องกินเวลายาวนานมากทีเดียว มองกันยาว ๆ เมืองไทยบ้านเราก็ยังชุกชุมไปด้วยโจรใส่สูทไปอีกนานโขเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น