"ก้อนเนื้อในน้ำ" สลายชุมนุม
อืมมมม...ก็ไม่ผิดจากคาด ช่วง ๒-๓ กันยานี่ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ "ทัวร์ยกแก๊ง" อีกจนได้ เป็นการบินออกนอกประเทศเพื่อ "หนีสถานการณ์" หรือไปด้วยภารกิจราชการงานเมือง คงไม่ต้องเดากระมัง...เพราะรู้เช่นเห็นชาติกันอยู่! คราวนี้ไปจีน แต่ไม่ใช่ที่ปักกิ่ง เป็นที่หนานหนิง ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองกวางสี เฉียงไปทางกรุงฮานอยนั่นแหละ นัยว่าจะพบกับนายกรัฐมนตรี "หลี่เค่อเฉียง" ที่นี่ ชาวสวนยาง ๔ ภาค โปรดรับรู้ไว้ด้วย ที่บอก "๓ กันยาปิดประเทศ" นั้น นายกฯ คนสวยของเราไม่อยู่หรอก เผ่นไปตั้งหลักอยู่หนานหนิงโน่นแล้วเมืองนี้เขานิยมกินเนื้อหมา พวกทัวร์ยกแก๊งไปด้วย ระวังหน่อยละกัน เข้าร้านอาหารไหน ดูให้ดี อย่าเผลอไปกินพวกเดียวกันเข้าเชียวล่ะ กลับมาแทนที่จะพูด
ดันหอน!
จะหนีปัญหา-หนีสภาฯ ได้อีกกี่รอบ ลองเอาปูนขีดข้างฝาส้วมไว้ช่วยกันนับ ทัวร์ยกแก๊งทีไรก็อ้างไปเปิดตลาดการค้า ไปดูลู่ทางการลงทุน...ไหนลองตอบซิว่า นอกจากผลาญค่าเรือบิน ค่าใช้จ่ายเป็นร้อยๆ ล้านแล้ว เคยขายอะไรได้บ้าง?นอกจาก "หน้า" และ "ประเทศ"!การบินไทยที่ตูดแหกไตรมาสเดียวร่วมหมื่นล้าน ก็เพราะอย่างนี้ ทุกสายการบิน ไม่ว่า แอร์เอเชีย นกแอร์ บางกอกแอร์ เขากำไรกันทั้งนั้น มีแต่การบินไทยที่ขาดทุน ไม่ต้องไม่จ้างใครที่ไหนทำวิจัยสาเหตุหรอก ผมบอกให้ก็ได้
รวมตัวยกตีน "อำนาจการเมือง" ออกไปเมื่อไหร่...การบินไทยก็เจริญเมื่อนั้น!พูดถึงปัญหาชาวสวนยาง โดยเฉพาะที่ชุมนุมกันอยู่ที่นครศรีฯ อยากเตือนรัฐบาลด้วยความหวังดี อย่าใช้อคติในใจทึกทักว่า "ปัญหาคนใต้" ที่มันไม่เลือกเรา แล้วก็ไม่สนใจไยดี ส่งแค่ระดับเสื้อแดงตัวป่วนในถนนที่เข้ามาเป็นข้าราชการการเมืองชื่อนายสุภรณ์ ลงไปรับหน้าเสื่อแค่นั้นด้วยชั้นเชิงนักเลง มันมองกันออ ว่า...นอกจากไม่ให้เกียรติแล้ว นี่คือการหยามเกียรติคนภาคใต้ โดยเฉพาะเกษตรกรสวนยางเหมือนเราส่งการ์ดเชิญเจ้าบ้านมาในงาน แต่ปรากฏว่า เจ้าบ้านที่เราเชิญ เขากลับให้คนรับใช้มาเป็นเกียรติ...แบบนี้ ที่จะพูดคุยกันได้ ด้วยใจที่หยามกัน มันก็จะกลับยาก!
และต้องระวัง การใช้วิธีการเหมือน "ติดสินบน" เพื่อแบ่งแยกกลุ่มชาวสวนยางให้แตกกัน ด้วยหวังให้กลุ่มชุมชุมหลักที่นครศรีฯ ถูกโดดเดี่ยว และอ่อนกำลังนั้นนอกจากไม่แนบเนียนแล้ว ก็ควรรู้ไว้ด้วยว่า ชาวสวนยางส่วนใหญ่ โดยเฉพาะภาคใต้ ทั้งไม่โง่ และทั้งไม่ยอมให้รัฐบาลเอาเงินมาฟาดหัวง่ายๆ เหมือนอย่างที่ตัวเองเคยทำกับม็อบเผาบ้าน-เผาเมืองหรอกไม่ใช่อะไร...ผมดูนายสุภรณ์ออกมาพูดในรายการช่อง ๑๑ เย็นวาน (๒๙ ส.ค.) คุยโวโอ้อวดว่าปัญหายางแก้ง่าย ต้องทำอย่างนั้น...อย่างนี้ในอนาคตและกับปัญหาเฉพาะหน้าขณะนี้ กล้าประกาศถึงขั้นว่า ๓ กันยา จะไม่มีม็อบ ๔ ภาค ปิดถนน-ปิดประเทศแน่นอน! "เพราะจะจ่ายเข้าบัญชีให้ทันทีคนละ ๓ หมื่นกว่าบาท จะเอาไปซื้อปุ๋ย หรือเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่ รัฐบาลให้เลย ชาวสวนยางได้ ๒ ต่อ คือได้ค่าปุ๋ยไร่ละ ๑,๒๖๐ บาท คนละไม่เกิน ๒๕ ไร่นี้แล้ว ยังจะได้จากราคายางที่จะสูงขึ้น...สูงขึ้นต่อจากนี้ด้วย"
นี่...นายสุภรณ์กล้ารับประกันขนาดนี้ ก็ขอให้มันจริงเถอะว่า ๓ กันยาจะไม่มีม็อบสวนยาง ๔ ภาคออกมาปิดถนน-ปิดทำเนียบฯ จะได้ส่งข่าวให้ยิ่งลักษณ์บินกลับมา ไม่ต้องยกแก๊งหนีปัญหาต่อไปที่อื่น!
นายสุภรณ์มั่นใจหรือว่า ที่ตกเบ็ดให้ไปฟรีๆ คนละ ๓ หมื่นกว่าบาทนั้น ชาวสวนยางซึ่งมีหลายกลุ่ม-หลายคณะ แยกตามภาคต่างๆ ร่วม ๖๐ จังหวัดที่ปลูกยาง ตกลงตามที่อ้าง
"พวกเขาตกลงในที่ประชุมแล้ว"? เท่าที่ผมสดับตรับฟังจากบรรดาหัวหน้ากลุ่มที่ออกมาพูด บางกลุ่มก็พอใจค่าจ้างเลิกชุมนุมคนละ ๓ หมื่นกว่า และประกันราคายางแผ่นกิโลละ ๘๐ บาท บางกลุ่มก็บอกว่า "รับไม่ได้" จะเดินหน้าต่อไปตามแผนเดิม คือ "๓ กันยาปิดประเทศ" จนกว่ารัฐบาลจะรับซื้อราคายางแผ่นกิโลละ ๑๐๗ บาท! สรุปตอนนี้ก็คือ "การแบ่งแยกแล้วปกครอง" ของรัฐบาลได้ผลระดับหนึ่ง เพราะแจกคนละ ๓ หมื่นกว่าบาท และรับซื้อกิโลละ ๘๐ บาท สามารถ "แตกกลุ่ม" ชาวสวนยางที่ผนึกกันแต่เดิมให้กระจายออกไปจากกันได้ คือพวกที่พอใจ ก็บอก ๓ กันยา ไม่ปิดถนนแล้ว พวกที่ไม่พอใจก็ยืนยัน ๓ กันยา เป็นไปตามแผนเดิม!
กระทั่งที่จุดชุมนุมใหญ่ ปิดถนนในเขตอำเภอชะอวด นครศรีธรรมราช ชุมนุมแผนแทรกซึมแบ่งแยกไม่ให้ชาวบ้านกับกลุ่มผู้ชุมนุมผนึกเป็นพวกเดียวกัน ดูเหมือนทางรัฐบาลทำได้สำเร็จระดับหนึ่ง โดยใช้พวกกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ออกข่าวและแสดงตัวเป็น "ฝ่ายตรงข้าม" กับผู้ชมุนุมให้ปรากฏทำเหมือนแทงสนุกไปได้ แทงขาวไปกระแทกกลุ่มแดงให้กระจาย แล้วเลือกสอยลงหลุมทีละลูก นั่นมันสิ่งไม่มีชีวิตจิตใจแต่นี่มันมนุษย์...มันคนที่มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกนึกคิด การทำคล้ายยุยงให้ประชาชนเกลียดกันเอง โกรธแค้นเป็นปฏิปักษ์กันเอง เหมือน "มอมหน้าไก่" ให้ตีกันเอง ฝ่ายรัฐต้องใคร่ครวญให้ดีว่า...จะแตกความรัก-ความสามัคคีประชาชนไปเซ่นอำนาจรัฐบาล หรือ...ควรจะแตกรัฐบาลที่ไม่ซื่อสัตย์-จริงใจกับประชาชนไปเซ่นความรัก-ความสามัคคีประชาชน? ประชาชนต้องอยู่กับแผ่นดินตลอดไปและตลอดกาล ส่วนรัฐบาลที่แบ่งแยกประชาชน มันมาฝังเขี้ยวดูดเลือด เดี๋ยวมันก็ต้องไป ถ้าไม่ไป ก็ต้องถูกเฉดหัวให้ไปนี่คือสัจจะแห่งการบริหารและปกครอง สำหรับผู้ใช้อำนาจไม่เป็นธรรม! "คนรัฐ" คือข้าราชการประจำของแผ่นดิน "คนรัฐบาล" คือข้าราชการชั่วคราวของนักการเมือง อย่าเอาไปปะปนกันและโดยเฉพาะข้าราชการมหาดไทย ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ต้องเข้าใจสถานภาพเพื่อดำรงบทบาทและหน้าที่ให้ถูกต้องด้วย
ข้า-ราชะ-การ
ไม่ใช่...
ข้า-นัก-การ-เมือง!
ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่ผู้บริหารแต่ละรัฐบาล ล้วนส่งสัญญาณ และชี้นำแบบผิดๆ ให้พี่น้องเกษตรกรเดินตามผิดๆ มาตลอด อะไรราคาดี ก็เฮกันปลูก ส่งเสริมกันปลูก อย่างยางพารา ราคาดีหน่อย รัฐบาลทักษิณก็ผุดโครงการ ๙๐ ล้านต้นกล้า ปลูกยาง ๑ ล้านไร่ทั่วประเทศแล้วก็ยุยงส่งเสริม เป็น ๒ ล้าน ๓ ล้านไร่ ประเทศไทย ๗๗ จังหวัด จนเดี๋ยวนี้ ร่วม ๖๐ จังหวัด กลายเป็นพื้นที่ปลูกยางไปหมดแล้ว! นักการเมือง กับพ่อค้ากล้ายาง-พ่อค้าปุ๋ย "ร่วมกันรวย" ก่อน กว่าต้นยางจะโตกรีดได้ ราคาที่ได้ดีวันนั้น ถึงวันนี้...แล้วมันมีหน้าไหนออกมารับผิดชอบ กระทั่งที่เคยไปรับประกัน-รับปากว่า ต้องได้ ๑๒๐ บาท/กิโลกรัมนั่นน่ะ?ใครมาเป็นรัฐบาล ตั้งรัฐมนตรีโดยแบ่งเกรด A B C D เอากระทรวงหาเงิน-หากินไว้เกรด A เรียกว่ากระทรวงเศรษฐกิจประเทศ ตั้งขุนพลเศรษฐกิจมาคุมแต่กระทรวงเกษตรฯ ซึ่งขอบข่ายงานชื่อก็บอกแล้วว่า "การเกษตร" อันเป็นหัวใจประเทศ โน่น...ไป B C Z คือบ่งบอกถึงทัศนคติและความเข้าใจของคนเป็นผู้นำบริหารว่ามันห่วยแตก ไม่เข้าใจถึงจุดอ่อน-จุดแข็ง อันเป็นความสำคัญที่ต้องบริหารนำชาติ-ประชาชนไปสู่เป้าหมายทุกกระทรวงทุกวันนี้ บริหารงานเฉพาะหน้าไปวันๆ เท่านั้น กะเทาะเปลือกให้ถึงเนื้อ-ถึงแก่นสู่ความแข็งแกร่งประเทศที่ยั่งยืนไม่ได้ชาวนา มีไว้หลอกขายข้าว ชาวไร่ มีไว้หลอกขายปุ๋ย ประเทศไทย อย่าไปพูดแค่คำว่า "ปฏิรูปการเมือง" สภาพจมปลัก "เน่าทุกระบบ" ทุกวันนี้ มันต้องไปถึงขั้น "รื้อใหม่ทุกระบบ" ปฏิรูปที่ต้องเรียกว่า
"ปฏิวัติสังคม" นั่นแหละ!
เปลว สีเงิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น